9 หุ้นกลุ่มค้าปลีกกอดคอบวก MOTHER พุ่งนำ 10.00% รับ 'คนละครึ่ง' ขยายวงเงิน 6 หมื่นล้าน

9 หุ้นกลุ่มค้าปลีกกอดคอบวก MOTHER พุ่งนำ 10.00%  รับ 'คนละครึ่ง' ขยายวงเงิน 6 หมื่นล้าน

9 หุ้นกลุ่มค้าปลีกกอดคอบวก MOTHER พุ่งนำ 10.00% นักวิเคราะเผย รับมาตรการ 'คนละครึ่ง' ขยายวงเงิน 6 หมื่นล้าน ชี้อัพไซด์ของกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นไปแล้วตั้งแด่ต้นเดือน ก.ย. กว่า 11%

KEY

POINTS

  • หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นเกือบทั้งกลุ่ม นำโดยหุ้น MOTHER ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น 10.00%
  • ปัจจัยบวกหลักมาจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่ง" ที่มีการขยายวงเงินเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 25,000 ล้านบาท
  • นักวิเคราะห์เผยศักยภาพของหุ้นรายตัวและอัพไซด์ที่เหลือ ปรับตัวขึ้นของกลุ่มนับตั้งแต่ต้นเดือน ถึง ณ ปัจจุบัน กลุ่มค้าปลีกได้มีการปรับเพิ่มขึ้นไปแล้วประมาณ 11%

ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 29 ก.ย.2568 เวลา 10.05 น.หุ้นกลุ่มค้าปลีกกอดคอบวก นำโดย 

  • หุ้น MOTHER บวก 10.00% เพิ่มขึ้น 0.14 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.54 บาท
  • หุ้น COM7 บวก 2.91% เพิ่มขึ้น 0.75 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 26.50 บาท 
  • หุ้น DOHOME บวก 2.04% เพิ่มขึ้น 0.08 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 4.00 บาท 
  • หุ้น CPW บวก 1.80% เพิ่มขึ้น 0.04 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.26 บาท 
  • หุ้น GLOBAL บวก 1.27% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 8.00 บาท 
  • หุ้น JMART บวก 1.03% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 9.85 บาท 
  • หุ้น CPALL บวก 1.05 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 48.25 บาท 
  • หุ้น ILM บวก 0.65% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 15.40 บาท 
  • หุ้น CPAXT บวก 0.44% บวก 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 23.00 บาท 

9 หุ้นกลุ่มค้าปลีกกอดคอบวก MOTHER พุ่งนำ 10.00%  รับ 'คนละครึ่ง' ขยายวงเงิน 6 หมื่นล้าน

วีระวัฒน์  วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า กลุ่มค้าปลีกปรับตัวบวกขึ้นเกือบทั้งแผง รับปัจจัยบวกจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่ง" ที่มีการขยายวงเงินเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิมที่เคยมีการพูดคุยกันในช่วงแรก ๆ อยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ การเพิ่มวงเงินที่สูงขึ้นดังกล่าวอาจทำให้เกิดเซอร์ไพรสทางเศรษฐกิจ และส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันให้ห้างร้านค้าปลีกมีการขยับตัวขึ้นมาตามไปด้วย

ซึ่งคำแนะนำและแนวโน้มการลงทุน ยังคงแนะนำให้ซื้อกลุ่มค้าปลีกนี้อยู่ และมองว่ากลุ่มดังกล่าวยังเป็นเซกเตอร์ที่น่าจะสามารถทำผลงานได้ดีกว่าตลาด ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า

"รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ และช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้งจะเป็นช่วงของการหาเสียง ซึ่งจะส่งผลให้มี เม็ดเงินสะพัดไหลเวียนในระบบจำนวนมาก ดังนั้น กลุ่มค้าปลีกจึงน่าจะมีโอกาส Outperform ในช่วง 3-6 เดือนนี้"

อย่างไรก็ดี ศักยภาพของหุ้นรายตัวและอัพไซด์ที่เหลือ เมื่อพิจารณาการปรับตัวขึ้นของกลุ่มนับตั้งแต่ต้นเดือน ถึง ณ ปัจจุบัน กลุ่มค้าปลีกได้มีการปรับเพิ่มขึ้นไปแล้วประมาณ 11% และยังคงมีอัพไซด์เหลืออยู่ให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะในหุ้นรายตัวเช่น CPALL มีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 65 บาท ซึ่งยังเหลืออัพไซด์อีกประมาณ 20% และยังแนะนำให้ซื้อได้ได้ ขณะที่ CPAXT มีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 23 บาท แต่ทว่าราคาอาจจะเริ่มชนเป้าหมายแล้ว