S&P 500 ดาวโจนส์ แนสแด็ก ปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นวันที่สาม

ดัชนีหลักทั้งสาม S&P 500 ดาวโจนส์ แนสแด็ก ปิดตลาดในวันพฤหัสบดีในแดนลบ จากการที่หุ้น Oracle ย่อตัวลงอีกครั้ง
และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น
ซีเอ็นบีซี รายงานว่าดัชนีหลักทั้งสามของสหรัฐฯ S&P 500 ดาวโจนส์ แนสแด็ก ปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.68) ในแดนลบ จากการที่ หุ้น Oracle ย่อตัวลงอีกครั้งและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น
ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดลดลง 0.50% ที่ 6,604.72 จุด เช่นเดียวกับแนสแด็ก Nasdaq Composite ซึ่งปิดตลาดที่ 22,384.70 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Averageลดลง 173.96 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 45,947.32 จุด
ราคาหุ้นออราเคิล (Oracle) ร่วงลง 5% ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน ขณะที่ยังมีคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์การซื้อขายหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI)
การเคลื่อนไหวของตลาดดูเหมือนจะสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าที่สูงเป็นประวัติการณ์และความสัมพันธ์แบบวนลงทุนกันในกลุ่มที่อาจมีความเสี่ยงในอุตสาหกรรม AI หลังจากข้อตกลงล่าสุด
หุ้นของบริษัทออราเคิล ซึ่งเป็นผู้นำในช่วงขาขึ้นล่าสุดของตลาดกระทิง ปรับตัวลดลงเกือบ 16% จากจุดสูงสุดล่าสุด การปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดีส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคำแนะนำให้ขายออกโดยโบรกเกอร์ Rothschild & Co Redburn ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะดิ่งลง 40% เนื่องจาก “ตลาดประเมินสูงเกินไปอย่างมาก” ว่าข้อตกลงด้าน AI ล่าสุดของออราเคิลจะช่วยส่งเสริมธุรกิจคลาวด์หลักของบริษัทได้มาก
“ออราเคิลเพิ่งจะพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล การถอยลงและความอ่อนตัวอาจมีเหตุผลสมควรเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง” คีธ บูคานัน ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสของ Globalt Investments กล่าว เขายังกล่าวถึง “ความกังขาบางประการ” เกี่ยวกับการคาดการณ์การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของบริษัทที่รายงานเมื่อต้นเดือนนี้
“ขนาดของคำสั่งซื้อเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง แต่หากกระจุกตัวอยู่ในคำสั่งซื้อเพียงไม่กี่รายการจากตลาดปลายทางเพียงไม่กี่แห่ง แน่นอนว่ามีความเสี่ยง” เขากล่าวกับซีเอ็นบีซี
นอกจาก Oracle แล้ว Tesla ก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่ร่วงลงในวันนี้ โดยร่วงลง 4%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นยิ่งทำให้แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นบางส่วนออกไปเพื่อลดความเสี่ยง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.2% หลังจากข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังโตสูง
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ปรับตามฤดูกาลแล้วอยู่ที่ 218,000 ราย สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 กันยายน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์สำรวจโดยบริษัทสื่อดาวโจนส์ คาดการณ์ไว้ที่ 235,000 ราย และต่ำกว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ปรับปรุงแล้วในช่วงก่อนหน้านั้น 14,000 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ลดลงหลังจากการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ก่อนหน้า
ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงการปรับเพิ่มตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่สองเป็น 3.8% อาจหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งบั่นทอนปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่หนุนตลาดกระทิง
นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการประกาศดัชนีราคาการใช้เพื่อการบริโภคส่วนบุคคลในวันศุกร์ และกำลังติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับภาวะปิดทำการของรัฐบาล (Government Shutdown) ที่อาจเกิดขึ้น หากรัฐบาลปิดทำการชั่วคราว อาจหมายถึงการปลดพนักงานจำนวนมากในรัฐบาลกลาง ดังที่สำนักบริหารงบประมาณได้ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงว่าหน่วยงานต่างๆ ควรเตรียมแผน "ลดจำนวนพนักงาน" ตามรายงานของเอ็นบีซีนิวส์







