หุ้น CK-STECON ร่วง 2.87% หลังถนนทรุดหน้า รพ.วชิรพยาบาล โบรกเกอร์เผยอาจกระทบกำไรปี 68

หุ้น CK ร่วง 2.87% ลดลง 0.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 16.90 บาท ขณะที่ STECON ร่วง 2.22% ลดลง 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 8.80 บาท หลังถนนทรุดหน้า รพ.วชิรพยาบาล โบรกเกอร์เผยอาจกระทบกำไรปี 68
KEY
POINTS
- หุ้น CK และ STECON ปรับตัวลดลง 2.87% และ 2.22% ตามลำดับ หลังเกิดเหตุการณ์ถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
- เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง CK (ถือหุ้น 55%) และ STECON (ถือหุ้น 45%)
- บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล ประเมินว่าหากมีความเสียหาย 1,000 ล้านบาท อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิปี 2568 ของ CK 19% และ STECON 28%
- อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีประกันคุ้มครอง ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากบริษัทเกี่ยวกับรายละเอียดความคุ้มครองต่อไป
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 24 ก.ย.2568 เวลา 10.10 น. หุ้น CK หรือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ร่วง 2.87% ลดลง 0.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 16.90 บาท ขณะที่ STECON หรือ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วง 2.22% ลดลง 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 8.80 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า วันนี้หุ้น CK และ STECON ปรับตัวร่วงลงมาพร้อมกัน หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินทรุดตัว บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
โดยเหตุการณ์แผ่นดินทรุดตัวครั้งนี้เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่เรียกว่า สีม่วงใต้ หรือช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงแหวนกาญจนาภิเษกโดยโครงการดังกล่าวเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง CK และ STECON โดยสัดส่วนการร่วมทุน CK ถือหุ้น 55% ขณะที่ STECON ถือหุ้น 45% มูลค่าสัญญารวม 19,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การประเมินผลกระทบทางการเงิน หากตั้งสมมติฐานความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินทรุดตัวไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพื่อประเมินผลกระทบต่อกำไรสุทธิของทั้งสองบริษัทในปี 2568 หุ้น CK หากความเสียหายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ผลกระทบ Downside ต่อกำไรสุทธิปีนี้ จะอยู่ที่ 19% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 495 ล้านบาท ขณะที่ STECON หากความเสียหายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ผลกระทบ Downside ต่อกำไรสุทธิปีนี้ จะอยู่ที่ 28% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 360 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลกระทบที่ประเมินไว้จะถือว่าค่อนข้างมากพอสมควร แต่ข้อมูลจากการสอบถามไปยัง STECON ระบุว่า โครงการมีประกันคุ้มครองอยู่ ดังนั้นต้องรอติดตามความชัดเจนจากแถลงการณ์ของทางบริษัทเกี่ยวกับเรื่องค่าประกันภัย และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
"การที่ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทปรับตัวลงในวันนี้ ถือเป็นการปรับลงในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดที่จะทำให้ตลาดหุ้นโดยรวมลงไปอีก 10 จุด โดยมองว่าตลาดโดยรวมกำลังอยู่ในช่วงพักฐาน"
สำหรับคำแนะนำหากจำเป็นต้องซื้อหุ้นในกลุ่มนี้ แนะนำ STECON โดยมองว่านักลงทุนที่พลาดโอกาสซื้อครั้งแรกไปสามารถเข้าซื้อไม้ที่สองได้ที่ระดับราคา 8.80 บาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







