โบรกเผย กลุ่ม Healthcare ฟื้นสัมพันธ์คูเวต หนุนหุ้น BH–BCH–BDMS ฟื้นตัวเด่น

บล.ทิสโก้ เผย ผู้แทนโรงพยาบาลเอกชนไทย 8 แห่งได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่คูเวต เพื่อหารือเกี่ยวกับการฟื้นฟูการส่งผู้ป่วยชาวคูเวตกลับมารักษาในประเทศไทยหุ้น BH และ BCH คาดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเคยมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยคูเวตสูงถึง 6% ขณะที่ BDMS มีสัดส่วน 0.7% การคัดเลือกโรงพยาบาลจำนวนน้อยลงกว่าในอดีต อาจทำให้โรงพยาบาลที่ได้รับเลือกอย่าง BH และ BCH มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และอาจหนุนการเติบโตโดยรวมได้ 4-5%
KEY
POINTS
- ผู้แทนโรงพยาบาลเอกชนไทย 8 แห่งได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่คูเวต เพื่อหารือเกี่ยวกับการฟื้นฟูการส่งผู้ป่วยชาวคูเวตกลับมารักษาในประเทศไทย
- หุ้น BH และ BCH คาดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเคยมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยคูเวตสูงถึง 6% ขณะที่ BDMS มีสัดส่วน 0.7%
- การคัดเลือกโรงพยาบาลจำนวนน้อยลงกว่าในอดีต อาจทำให้โรงพยาบาลที่ได้รับเลือกอย่าง BH และ BCH มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และอาจหนุนการเติบโตโดยรวมได้ 4-5%
- คาดว่าผู้ป่วยชาวคูเวตอาจเริ่มกลับมาใช้บริการได้เร็วที่สุดในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 ถึงไตรมาส 1 ปี 2569 โดยคาดว่าจะกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบได้ในปี 2569
บล.ทิสโก้ เผย ผู้แทนโรงพยาบาลเอกชน 8 รายในประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมกับเจ้าหน้าที่คูเวตระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน 2568 การหารือมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูการเดินทางของผู้ป่วยชาวคูเวตมายังประเทศไทย หากโครงการนี้ดำเนินต่อไปอาจช่วยส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลที่เคยให้บริการผู้ป่วยชาวคูเวตก่อนช่วงหยุดให้บริการ ได้แก่ BH 6% ของรายได้รวม, BCH 6% และ BDMS 0.7%
ทั้งนี้ เนื่องจากมีโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม เราเชื่อว่าจำนวนผู้ประกอบการที่ได้รับเลือกจะน้อยกว่า 17 รายก่อนช่วงหยุดให้บริการ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เหลือสามารถฟื้นตัวจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยชาวคูเวตอาจกลับมาใช้บริการได้เร็วที่สุดในช่วงไตรมาส 4/68 ถึง ไตรมาส 1/69 ขึ้นอยู่กับกระบวนการคัดเลือกโรงพยาบาลและการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่
โดยคาดว่า BH และ BCH จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากความคืบหน้านี้ เนื่องจากทั้งสองโรงพยาบาลมีส่วนได้ส่วนเสียกับรายได้ผู้ป่วยชาวคูเวตค่อนข้างสูง (ประมาณ 6% ก่อนหยุดให้บริการชั่วคราว)
โดยคาดว่าสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในปี 2569 และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่คงที่ โรงพยาบาลทั้งสองแห่งอาจมีการเติบโตโดยรวมประมาณ 4-5% เมื่อเทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน
สำหรับรายละเอียดการประชุมเพิ่มเติม
- ตัวแทนโรงพยาบาลประกอบด้วยทั้งสถาบันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ BDMS, BH, BCH, PR9, M-CHAI และโรงพยาบาลปิยะเวท (ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์)
- เจ้าหน้าที่คูเวตแสดงความสนใจอีกครั้งในการส่งผู้ป่วยมายังประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาแบบเข้มข้น ซึ่งยังคงมีข้อจำกัดในคูเวต
- ระยะเวลาที่แน่นอนของการส่งผู้ป่วยกลับประเทศและการคัดเลือกโรงพยาบาลผู้รับบริการยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เจ้าหน้าที่คูเวตวางแผนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลในเดือนตุลาคมเพื่อประเมินผลเพิ่มเติม
- กระบวนการคัดกรองจะถูกโอนย้ายจากสถานทูตคูเวตไปยังกระทรวงสาธารณสุข ผ่านสำนักงานแพทย์ในประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่ามีการกำกับดูแลขั้นตอนการรักษาอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
- คาดว่าบัญชีลูกหนี้คงค้างก่อนช่วงหยุดให้บริการจะได้รับการชำระภายในไตรมาส 4/68
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BDMS โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 30.00 บาท







