‘Chartered Group‘ ซื้อหุ้นBCP ไม่เกี่ยวนักการเมืองไทย แหล่งเงินถูกต้องเตรียมแผนลงทุนยาว

‘Chartered Group‘ ซื้อหุ้นBCP ไม่เกี่ยวนักการเมืองไทย  แหล่งเงินถูกต้องเตรียมแผนลงทุนยาว

Chartered Group แจงลงทุน BCP แหล่งเงินถูกต้อง-ไม่เกี่ยวข้องนักการเมืองหรือพรรคการเมืองไทย เตรียมฟ้องกลับเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ด้านแผนลงทุนพร้อมเพิ่มมูลค่า BCP ก้าวกระโดด3ปี

ชี้แจงข้อกล่าวอ้างอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการลงทุน ในบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP

19 กันยายน 2568 – ตามที่ปรากฏข้อกล่าวอ้างในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์บางแห่งซึ่งเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ที่ปราศจากมูลความจริง ขาดข้อเท็จจริงรองรับ และมีเจตนาเพื่อก่อให้เกิดความสับสนแก่สาธารณชน รวมถึงทำลายชื่อเสียงของ Chartered Group (ตามเอกสารแนบ)

อีกทั้ง มีความพยายามที่ไม่สุจริตในการก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับโครงสร้างการลงทุนในหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) (“BCP”) และแหล่งที่มาของเงินลงทุน

บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด (“ACE”) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BCP ใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

1. เหตุผลในการเข้าลงทุน ACE ได้เข้าซื้อหุ้น BCP รวมทั้งสิ้น 275,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.0083% และ ACE ได้รายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“ส านักงาน ก.ล.ต.”) ตามแบบ 246-2เป็นที่เรียบร้อย

เหตุผลที่ ACE สนใจลงทุนใน BCP เกิดจากข้อเสนอของคุณณัฐกร อธิธนาวานิช (“คุณณัฐกร”) ซึ่งเป็นพันธมิตร (Local partner) ของ Chartered Group ในประเทศไทย โดยคุณณัฐกรเล็งเห็นว่า BCP เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง สามารถขยายธุรกิจและพัฒนาไปสู่การเป็นผู้นำบริษัทพลังงานในระดับภูมิภาค อีกทั้งมีระดับราคาหรือมูลค่าการลงทุนที่เหมาะสมและยังคงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

Chartered Group รู้จักคุณณัฐกรตั้งแต่สมัยที่คุณณัฐกรทำงานอยู่กับบริษัท McKinsey &Company (Thailand) ซึ่งเป็นเวลากว่า 10 ปี ในการลงทุนครั้งนี้ คุณณัฐกร ในฐานะ Local partner จึงเป็นผู้จัดตั้ง ACE ขึ้นเพื่อใช้เป็นบริษัทในการลงทุน

โดยมีอำนาจควบคุมใน ACE ทั้งในระดับคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น และมีอำนาจตัดสินใจเต็มรูปแบบในการลงทุน รวมถึงการคัดเลือกบริษัทเป้าหมาย การทำ Due Diligence การบริหารและติดตามกิจการที่ลงทุน ตลอดจนการพิจารณาส่งกรรมการผู้แทนในบริษัทที่ลงทุน

2. โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ACE Alpha Global มีผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวคือ คุณณัฐกร อธิธนาวานิช Encore Issuance S.A. มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกับ Opus-Chartered Issuances S.A. (“Opus SA”) ซึ่งผู้ถือหุ้นที่แท้จริงและผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด (ultimate beneficial owners) ได้มีการเปิดเผยต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว เมื่อครั้งที่ Opus SA เข้าซื้อกิจการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)

Alpha Global และ Encore Issuance S.A. จะได้รับประโยชน์ตามสัดส่วนที่ถือหุ้น และมีข้อตกลงที่จะไม่โอนหรือมอบหมายประโยชน์ดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่ากรณีใด ๆ ACE ยืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ หรือการเกี่ยวข้องใด ๆ กับนักการเมืองพรรคการเมือง หรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตามที่ถูกกล่าวอ้างในรายงานข่าวล่าสุด

3. แหล่งที่มาของเงินลงทุน

รายงานที่เกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินลงทุนในการเข้าซื้อ BCP นั้นไม่ถูกต้อง ในข้อเท็จจริงนั้น ACE ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินแบบไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการรับรองและอนุญาตจาก Monetary Authority of Singapore (MAS)

การสนับสนุนดังกล่าวเกิดจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความน่าเชื่อถือของ Chartered Group โดยการจัดหาเงินทุนดังกล่าวเป็นไปอย่างโปร่งใสและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

4. สิ่งที่ ACE จะดำเนินการหลังจากการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BCP

การตัดสินใจลงทุนใน BCP มีพื้นฐานจากความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของ BCP ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพการในเติบโตที่สูง มีความสามารถในการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค และมีมูลค่าการลงทุนที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถใช้เครือข่ายและความเชี่ยวชาญเพื่อเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าบริษัทอย่างก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืนในอีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งการลงทุนดังกล่าวจะถือเป็น Flagship investmentของกลุ่มในระยะยาวอีกด้วย

ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้น BCP แล้ว ACE ได้เสนอผู้แทน 2 ท่านเป็นกรรมการของ BCP ได้แก่ คุณณัฐกร อธิธนาวานิชและ Dr.Tomas Koch

คุณณัฐกร อธิธนาวานิช อดีตที่ปรึกษาบริษัท McKinsey & Company และผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการปรับโครงสร้างและพัฒนาธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ พลังงาน การเงิน อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก

นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์โดยตรงในโครงการสำคัญเกี่ยวกับการพลิกฟื้นโรงกลั่นและปิโตรเคมีให้มีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัวภายในเวลา 3 ปีอีกด้วย

Dr. Tomas Koch: อดีต Senior Partner ของ McKinsey & Company เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูง และมีประสบการณ์กว่า 33 ปีในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์องค์กร การเติบโต การยกระดับประสิทธิภาพ และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล โดยมีประสบการณ์ในโครงการมากกว่า 300 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงานและเคมีภัณฑ์ทั่วเอเชีย

Chartered Group และ ACE มีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มบริษัท Chartered Group จะดำเนินการทางกฎหมายต่อการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในประเทศไทย กลุ่มบริษัท Chartered Group ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนระดับโลกที่บริหารและลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในหลายประเทศได้ออกประกาศฉบับพิเศษอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่ากลุ่มบริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อบุคคลและนิติบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จและเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นประมาทในสื่อและเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยกล่าวอ้างหรือสร้างความเข้าใจว่า

กลุ่มบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองในประเทศไทยหรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลบางรายที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP), บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) (MFC) และ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) (VGI)

กลุ่มบริษัทขอยืนยันอย่างชัดเจนว่ากลุ่มบริษัทไม่เคยมีและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมกับนักการเมือง พรรคการเมือง หรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจทั้งหมดของกลุ่มบริษัทเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

กลุ่มบริษัท Chartered Group ขอเรียนว่า: “กลุ่มบริษัทมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในประเทศไทยและจากความเชื่อมั่นของเราดังกล่าวท าให้เรามุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”

กลุ่มบริษัทขอแจ้งเพิ่มเติมว่า: “ความพยายามใด ๆ ที่จะทำลายชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทด้วยการเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองหรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลบางรายที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์จะได้รับการตอบโต้ด้วยมาตรการที่เด็ดขาดและไม่ประนีประนอม รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อทุกฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

อนึ่ง ความพยายามที่จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข้อมูลอันเป็นเท็จที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันจะไม่ประสบผลสำเร็จและไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศไทย กลุ่มบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพและรักษามาตรฐานสูงสุดในการบริหารการลงทุนและกระบวนการทางธุรกิจทั่วโลก”