เปิดสถิติหลอก-ชวนลงทุนพุ่งแตะ 6 พันครั้ง สั่งปิด 3 พันบัญชี Facebook นำโด่งอันดับ 1

เปิดสถิติหลอก-ชวนลงทุนพุ่งแตะ 6 พันครั้ง สั่งปิด 3 พันบัญชี Facebook นำโด่งอันดับ 1

ก.ล.ต. รับแจ้งหลอกลงทุนพุ่งเกือบ 8 เดือนแรกปี 68 เกิน 6,000 ครั้ง ส่งเรื่องปิดช่องทาง 3,036 บัญชี พบผ่านโซเซียลมีเดีย Facebook นำโด่ง สั่งปิดกั้นแล้ว 2,139 บัญชี

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดสถิติการดำเนินการของ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” ในปี 2568 (1 ม.ค. - 15 ก.ย.68) ได้รับแจ้งเบาะแสหลอกลงทุน รวมทั้งสิ้น 6,354 ครั้ง ผ่านระบบรับแจ้งใน 6 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) โทรศัพท์ (1207 กด 22) อีเมล ([email protected]) การเดินทางมายังสำนักงาน ระบบบริการสนทนา และไปรษณีย์

โดยมีบัญชีโซเชียลมีเดียเข้าข่ายหลอกลงทุนที่ประสานผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และหน่วยงานภาครัฐเพื่อปิดกั้น จำนวน 3,036 บัญชี โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ปิดกั้นไปแล้วร้อยละ 100 ภายในเวลา 7 นาที - 48 ชั่วโมง และให้คำปรึกษาในเรื่องการหลอกลงทุน จำนวน 3,318 ครั้ง

          เปิดสถิติหลอก-ชวนลงทุนพุ่งแตะ 6 พันครั้ง สั่งปิด 3 พันบัญชี Facebook นำโด่งอันดับ 1

ทั้งนี้ การดำเนินการปิดกั้นช่องทางการหลอกลงทุนบนแพลตฟอร์มต่างๆ จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนรายอื่นตกเป็นเหยื่อถูกชักชวนหลอกลงทุน และมีกระบวนการตรวจสอบ ตั้งแต่ตรวจสอบข้อมูล เก็บพยานหลักฐาน เตรียมเอกสารและข้อมูลเพื่อใช้ในการปิดกั้น ติดต่อผู้แจ้งเบาะแสเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ค้นหาข้อมูลที่ได้รับจากการแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม รวมถึงติดต่อผู้ถูกใช้ชื่อในการหลอกลงทุนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการหลอกลงทุนจริง และระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการปิดกั้นเกิดขึ้น 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศในการป้องกันการถูกชักชวนหลอกลงทุนให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุน และผู้ประกอบธุรกิจ และหน่วยงานในตลาดทุน ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในประเทศ

          เปิดสถิติหลอก-ชวนลงทุนพุ่งแตะ 6 พันครั้ง สั่งปิด 3 พันบัญชี Facebook นำโด่งอันดับ 1

เปิดสถิติหลอก-ชวนลงทุนพุ่งแตะ 6 พันครั้ง สั่งปิด 3 พันบัญชี Facebook นำโด่งอันดับ 1

        (1) เปิดรับสายตรงจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 24.00 น. เพื่อให้ประชาชนหรือผู้ลงทุนที่จะดำเนินการแจ้งความ และอายัดบัญชีกับ AOC 1441 แต่ยังไม่มั่นใจว่าถูกชักชวนหลอกลงทุนหรือไม่ ได้สอบถามข้อมูลก่อนการแจ้งความอายัดบัญชีเพื่อไม่ให้เกิดการแจ้งความเท็จเกิดขึ้น

        (2) เข้าร่วมศูนย์บริการเหตุการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์ และด้านมนุษย์นานาชาติ (War Room) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนำข้อมูลที่ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนในตลาดทุนได้มีการแจ้งความมาดำเนินการตามกระบวนการของ ก.ล.ต.

        (3) เพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล SEC Check First บน Cyber Check* ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชน และผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลก่อนการลงทุน (สามารถดาวน์โหลดทั้งระบบ iOS และ Android)

        (4) เข้าร่วม/จัดกิจกรรม แคมเปญ หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความตระหนักรู้ และป้องกันการถูกชักชวนหลอกลงทุนให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุน และผู้ประกอบธุรกิจ และหน่วยงานในตลาดทุน ซึ่งมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • โครงการ “เสริมเกราะป้องกันให้บัญชีด้วย Brand Rights Protection & Meta Verified”
  • โครงการให้ความรู้ภัยหลอกลวงออนไลน์ (Investment scam campaign) แคมเปญต้านภัยมิจฉาชีพออนไลน์ “Is This Legit?” และร่วมเสวนาในงานต่างๆ ร่วมกับ Meta Platform, Inc. และบริษัท เฟซบุ๊ก (ไทยแลนด์) จำกัด
  • แคมเปญ #คนไทยรู้ทัน ปี 2567 และ 2568 ร่วมกับบริษัท ติ๊กต๊อก เทคโนโลยีส์ จำกัด หรือ เจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok
  • เสวนา Smart Senior 2025 “วัยเก๋า ลงทุนฉลาด สมาร์ตดิจิทัล” ร่วมกับบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์