หุ้นไทยวันนี้ 18 ก.ย.68 เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาดการณ์ไว้

หุ้นไทยวันนี้ 18 ก.ย.68 เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาดการณ์ไว้

บล.พาย เผย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ เงินบาทที่อ่อนค่าลงถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก และกลุ่มท่องเที่ยว ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET วันนี้ไว้ที่ 1295 – 1315 จุด และแนะนำกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้นในหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย

KEY

POINTS

  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
  • ประธานเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังการลดดอกเบี้ยในครั้งถัดไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมาย และปิดโอกาสการลดดอกเบี้ยแบบรุนแรง
  • เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1.6% และส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
  • ผลการประชุมเฟดทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบระดับ 31.8 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
  • เงินบาทที่อ่อนค่าลงถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก (ITC, TU) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, MINT)
  • บล.พาย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET วันนี้ไว้ที่ 1295 – 1315 จุด และแนะนำกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้นในหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย

หุ้นไทยวันนี้ 18 ก.ย.68 บล.พาย เผย ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 260 จุด +0.57% แต่อย่างไรก็ตามบรรยากาศการลงทุนค่อนข้างผันผวนเพราะประธาน FED ส่งสัญญาณระมัดระวังการลดดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.76% หลังจากสหรัฐฯ รายงานสต็อกเพิ่มขึ้น

เมื่อคืนที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจพบว่า FED มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้สู่ระดับ 1.6%YOY จากเดิมที่ 1.4%YoY และอัตราการว่างงานที่ระดับเดิมราว 4.5% พร้อมกับเงินเฟ้อ (PCE) ที่ระดับ 3% แต่อย่างไรก็ตาม ปรับเพิ่มการลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง หรือส่งสัญญาณจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งจากนี้ ทางประธาน FED แถลงว่าตลาดแรงงานส่งสัญญาณอ่อนตัวและอาจมีผลต่อความสามารถในการรักษาอัตราการว่างงานให้อยู่ระดับต่ำ
 

แต่อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมายเพราะมีแรงกดดันจากหลายปัจจัยเช่น ภาษีนำเข้าและยืนยันถึงการบริหารนโยบายยึดหลักตัดสินใจตามข้อมูลพร้อมยืนยันไม่มีการแทรกแซงทางการเมือง โดยปิดโอกาสการลดดอกเบี้ยแบบแรง เพราะกังวลว่าจะมีผลต่อทิศทางเงินเฟ้อให้เร่งตัว ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่า US Bond Yield กลับมาเร่งตัวขึ้นผสานกับ Dollar Index พลิกมาแข็งค่าและกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าทดสอบ 31.8 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนมุมมองเชิงเข้มงวดมากขึ้นจากตลาดส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าทาง FED ยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและปิดโอกาสลดดอกเบี้ยในอัตราเร่ง ปี 2569 FED ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งเท่านั้น 

ทั้งนี้ จากเงินบาทที่อ่อนค่ามองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มส่งออกและท่องเที่ยว AOT CENTEL MINT ITC TU ประเมินทิศทางเงินบาทมีโอกาสทยอยอ่อนค่าต่อเพราะส่งออกมีแนวโน้มเริ่มจะเติบโตในทิศทางชะลอลงหรืออาจติดลบก็เป็นไปได้เพราะช่วงแรกเร่งไปค่อนข้างแรง 

ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่จำนวนขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.4 แสนและในประเทศรอติดตามการนำคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้า ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วนี้ วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1295 – 1315 ภาพรวมยังดูเป็นบวกการลดดอกเบี้ยของ FED ไม่ได้ชี้นำถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่นำไปสู่ Recession แต่เป็นการลดเพื่อช่วยประครองตลาดแรงงานและในประเทศมีความคาดหวังเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

แต่อย่างไรก็ตามด้วย Valuation SET ที่เริ่มสูง (Forward PE 14.5x) จึงไม่ได้คาดหวัง Upside ที่เยอะมากจากนี้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเป็นเพียงระยะสั้นและเลือกหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย อาทิ ส่งออก ITC TU ท่องเที่ยว MINT ค้าปลีก BJC CRC CPALL HMPRO นิคมอุตสาหกรรม AMATA WHA