หุ้นไทยวันนี้ 15 ก.ย.68 เข้าสู่ช่วง Wait & See รอดูประชุม FED

หุ้นไทยวันนี้ 15 ก.ย.68 เข้าสู่ช่วง Wait & See รอดูประชุม FED

บล.พาย เผย นักลงทุนเข้าสู่ภาวะ Wait & See เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในคืนวันพฤหัสบดีนี้มตลาดให้น้ำหนักสูงถึง 93% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน

KEY

POINTS

  • นักลงทุนเข้าสู่ภาวะ Wait & See เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในคืนวันพฤหัสบดีนี้
  • ตลาดให้น้ำหนักสูงถึง 93% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน
  • ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวขึ้นสะท้อนความคาดหวังเรื่องการผ่อนคลายนโยบายการเงินไปพอสมควรแล้ว จึงควรระมัดระวัง Upside ที่อาจจำกัดในระยะสั้น
  • บล.พาย ประเมินดัชนี SET วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1285 – 1300 จุด โดยคาดว่าจะไม่ปรับฐานแรงเพราะยังมีความหวังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

หุ้นไทยวันนี้ 15 ก.ย.68 บล.พาย เผย ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 273 จุด -0.6% อย่างไรก็ตามดัชนี Nasdaq ปิดแดนบวกเพราะได้แรงหนุนจากหุ้น Microsoft ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.5% แรงกดดันจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยมิชิแกนได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ 55.4 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 58.2 จากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคมีมุมมองเชิงลบต่อทิศทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับล่างและระดับกลางทั้งนี้ประเด็นการค้ายังเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสนใจสูงแต่โดยรวมก็สะท้อนถึงทิศทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 93% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน

สำหรับปัจจัยในประเทศตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกเล็กน้อย +0.4% แต่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 764 ล้านบาท ปัจจัยในประเทศยังทรงตัว ไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่มีนัยยะสำคัญ หลังรับทราบประเด็นบวกจากการลดดอกเบี้ยของ FED พร้อมกับรัฐบาลชุดใหม่ 

ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทมีปัจจัยน่าสนใจพบว่า ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าพบว่ากระแสเงินทุนต่างชาติมิได้เข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยยะหากพิจารณาเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯช่วงต้นปีอยู่ที่ 34.3 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯและแข็งค่าลงมาอยู่ที่ 31.6 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ (ล่าสุด) แต่กลับพบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8.5 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงปัญหาเชิงปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยที่เป็นไปได้ทั้งเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนขยายตัวต่ำ 

คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเพราะนักลงทุนจะรอดูการประชุม FED ในคืนวันพฤหัสหรือจะทราบผลทางการในช่วงเช้าของวันศุกร์ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ถือว่าปรับขึ้นมาสะท้อนปัจจัยคาดหวังผ่อนคลายนโยบายการเงินไปพอสมควร จึงควรระมัดระวัง Upside ที่อาจจำกัดในระยะสั้น 

แต่กับตลาดหุ้นไทยเชื่อว่าจะไม่ได้เห็นการปรับฐานแรงเพราะยังมีความคาดหวังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1285 – 1300 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเลือกหุ้นที่รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO CPAXT) การเงิน (MTC) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)