5 หุ้นแบงก์กอดคอร่วง KKP-TISCO ดิ่งนำ 2.49% หลังประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD

5 หุ้นแบงก์กอดคอร่วง KKP ดิ่งนำ 2.49% ลดลง 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 58.75 บาท ตามมาด้วย TISCO ร่วง 2.44% ลดลง 2.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 100.00 บาท โบรกเผย หลังประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้
KEY
POINTS
- หุ้นกลุ่มธนาคาร 5 แห่งปรับตัวลดลงในภาคเช้าของวันที่ 10 ก.ย. 2568
- สาเหตุหลักของการปรับตัวลดลงมาจากการที่หุ้นธนาคารส่วนใหญ่ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD (Ex-Dividend) ในวันนี้
- KKP เป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด 2.49% ตามมาด้วย TISCO ที่ลดลง 2.44%
- หุ้นธนาคารอื่นที่ปรับตัวลงด้วยได้แก่ KBANK (-1.46%), BAY (-1.25%) และ BBL (-0.98%)
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 10 ก.ย.2568 เวลา 10.40 น.หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลง หลังจากที่มีการประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันนี้ นำโดย
- หุ้น KKP ร่วง 2.49% ลดลง 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 58.75 บาท
- หุ้น TISCO ร่วง 2.44% ลดลง 2.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 100.00 บาท
- หุ้น KBANK ร่วง 1.46% ลดลง 2.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 168.50 บาท
- หุ้น BAY ร่วง 1.25% ลดลง 0.30 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 23.70 บาท
- หุ้น BBL ร่วง 0.98% ลดลง 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 151.00 บาท
ณฐพล พงษ์สุขเจริญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ธนาคารขนาดใหญ่เกือบทั้งหมดวันนี้มีการประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ส่งผลให้ภาคธนาคารดึงดัชนีตลาดให้ปรับตัวลดลง คาดว่ากลุ่มธนาคารจะอยู่ในลักษณะทรงตัวและประคองตัวไปก่อน โดยนักลงทุนอาจรอรับเงินปันผลในช่วงต้นปีหน้าเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาพรวมของกลุ่มธนาคาร ได้แก่ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงเป็นขาลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ หรือ NIM ของธนาคาร นอกจากนี้ คุณภาพสินทรัพย์ยังคงประคองตัวอยู่ และยังไม่เห็นการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับคำแนะนำการลงทุนในกลุ่มธนาคาร ยังคงให้น้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด หรือ Neutral โดยมองว่ายังไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน ความไม่แน่นอนของ NIM และคุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งสำคัญของกลุ่มธนาคารคืออัตราผลตอบแทนเงินปันผลของทั้งภาคส่วนที่สูงถึงเกือบ 7% ซึ่งเป็นปัจจัยค้ำจุนราคาหุ้น
โดยหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคารแนะนำ KBank เนื่องจากเป็นธนาคารที่ได้ดำเนินการล้างหนี้เสียไปค่อนข้างมากแล้ว ทำให้สามารถรองรับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารอื่น ส่วน KTB มีสัดส่วนสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐประมาณ 20% ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสรับรู้กำไรจากการแปลงหนี้เป็นทุนของการบินไทย





