‘กองทุนวายุภักษ์’ปรับพอร์ตลงทุน เน้นหุ้น‘บริโภคในประเทศ’

“กองทุนวายุภักษ์ 1” ครึ่งหลังปี 68 ชูกลยุทธ์ลงทุน เน้น “หุ้นกลุ่มบริโภคภายในประเทศ” ด้วย “ศักยภาพ” เติบโตระยะยาว พร้อมปรับพอร์ตตามภาวะตลาด หวังสร้างผลตอบแทนเหนือคาด
KEY
POINTS
- กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง มีแผนปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยจะมุ่งเน้นหุ้นในกลุ่มการบริโภคภายในประเทศ (Domestic Consumption)
- ผู้จัดการกองทุนมองว่าหุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศยังมีโอกาสเติบโตได้ในระดับที่ดี และคาดหวังว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าที่คาด
- จะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตตามภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยย้ายการลงทุนจากหุ้นที่มีมูลค่า (Valuation) ตึงตัวไปยังหุ้นที่มีมูลค่าเหมาะสม
นางสาวชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า สำหรับแผนการลงทุนในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ของ กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง จะเน้นการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ “การบริโภคภายในประเทศ” (Domestic Consumption) ซึ่งมองว่ายังมีโอกาสเติบโตระดับที่ดี และจะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง สะท้อนภาพที่ผ่านมาได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นที่มี Valuation ตึงตัวแล้วไปลงทุนในหุ้นที่มี Valuation เหมาะสม
นอกจากนี้ “เงินปันผล” ที่ได้รับทำให้มีเม็ดเงินลงทุนใหม่ในการลงทุน โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนอย่างเหมาะสม และด้วยภาวะตลาดปัจจุบันมองว่า น่าจะยังอยู่ได้ด้วย Valuation ของตัวเอง และหวังว่า กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ให้ “ผลตอบแทน” ได้ดีกว่าที่คาด
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ให้เข้ามาลงทุนใน"ตลาดหุ้นไทย"มากยิ่งขึ้นนั้น “นางสาวชวินดา” มองว่า ภาครัฐจำเป็นต้องมีมาตรการและแนวทางที่ชัดเจน ในการสร้างมูลค่า และความน่าสนใจของตลาด การปรับปรุงนโยบายด้านการลงทุน การเพิ่มความโปร่งใส และการส่งเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จำช่วยให้ตลาดทุนไทย “โดดเด่น” ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งไม่แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่สามารถสร้างความสนใจและดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การพัฒนาประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางทางการเงิน” (Financial Hub) จะสามารถช่วยสร้างการลงทุนที่มีความหลากหลาย ทั้งในตลาดทุนและตลาดการเงินต่างๆ ซึ่งการสนับสนุนและการพัฒนาเรื่องดังกล่าว นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าในตลาดหุ้นไทยแล้ว ในเชิงความสามารถ สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในฐานะศูยน์กลางการลงทุน ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง ในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
ทั้งนี้ นักลงทุน “ต่างชาติ” ยังมีมุมมองเชิงบวกต่องประเทศไทย และตลาดหุ้นไทยยังสามารถลงทุนได้ แม้ในระยะสั้นยังมีสถานการณ์ในประเทศ อย่าง ปัญหาการเมืองในขณะนี้ รวมทั้งปัญหา “ชายแดนไทย-กัมพูชา” ที่ต่างเข้ามา “กดดันตลาด” โดยมองปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยเชิงลบในระยะสั้นเท่านั้น
“การวางกลยุทธ์เชิงรุก ไม่ใช่เพียงเรื่องของการเพิ่มตัวเลขการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตลาดทุนไทยอีกด้วย ในระยะยาว พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กับภาคธุรกิจ และนักลงทุนต่างชาติ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมและเติบโตไปพร้อมกับประเทศไทยได้อย่างมั่นคง”
ณ เดือนก.ย. 2568 กองทุนวายุภักษ์ 1 ผลตอบแทน 2.94% ถือครองหุ้นหลักในกลุ่มการเงินและพลังงานที่มีความมั่นคงและศักยภาพเติบโตระยะยาว






