หุ้น SPALI บวก 5.95% รับอานิสงส์แผนซื้อหุ้นคืน หนุนราคาจำกัด Downside

หุ้น SPALI บวก 5.95% เพิ่มขึ้น 1.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 17.80 บาท โบรกเผย รับอานิสงส์แผนซื้อหุ้นคืน หนุนราคาจำกัด Downside
KEY
POINTS
- หุ้น SPALI ปรับตัวขึ้น 5.95% มาอยู่ที่ราคา 17.80 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าของวันที่ 9 ก.ย. 2568
- นักวิเคราะห์จาก บล. ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัท
- โครงการซื้อหุ้นคืนดังกล่าวถูกมองว่ามีผลช่วยพยุงราคาหุ้นและจำกัดความเสี่ยงด้านราคาขาลง (Downside) ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ บล.เอเซีย พลัส
ความเคลื่อนไหว"หุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 9 ก.ย.2568 เวลา 10.05 น. หุ้น SPALI หรือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บวก 5.95% เพิ่มขึ้น 1.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 17.80 บาท
วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้น SPALI มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ บริษัทอยู่ระหว่างการทยอยซื้อหุ้นคืน การซื้อหุ้นคืนนี้มีผล 2 ทางคือ ช่วยจำกัด downside ของราคาหุ้น และหนุนราคาหุ้นได้
สำหรับภาพรวมครึ่งหลังของปี 2568 มองว่า ผลประกอบการของ SPALI อาจจะยัง ไม่หวือหวามากนัก แม้ว่าครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตได้ แต่สำหรับภาพรวมทั้งปีนั้น คาดการณ์ว่ากำไรจะหดตัวลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ดังนั้น หากเทียบกับปีต่อปีแล้ว ผลประกอบการก็ยังไม่น่าจะดี อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำขาย โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 14.20 บาท และแนวต้านที่ 9.80 บาท
นวลพรรณ น้อยรัชชุกร นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุนและทางเทคนิค บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า SPALI เปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ Supalai Elite สุขุมวิท 39 มูลค่า 2.1 พันล้านบาทจํานวน 192 ยูนิตอย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (30-31 ส.ค.2568) หลังก่อนหน้านี้มีเปิดแบบ Soft Launch บางส่วน โดยเพียงวันแรกของการเปิดตัว (เสาร์ 30 ส.ค.2568) สามารถ Sold Out ทั้งโครงการ นับว่าเกินคาดหมายของบริษัท
ทั้งนี้ มองความสําเร็จของการขาย มาจากปัจจัยทั้งในเรื่องทําเลที่ตั้งในซอยสุขุมวิท 39 ที่เดินทางสะดวก, ตัวโครงการมีสิ่งแวดล้อมครบ และรับประกันโครงสร้าง 10 ปี รวมถึงมีราคาจับต้องได้ ด้วยราคาขายเฉลี่ย 1.2 แสนบาท/ตร.ม. ได้เปรียบคู่แข่งในทําเลเดียวกัน ประกอบกับโครงการมียูนิตไม่มาก และเน้นห้องขนาดใหญ่ 2-3 ห้องนอน ซึ่งมี Supply น้อยในโซนดังกล่าว รองรับ Demand ทั้งอยู่เองและปล่อยเช่า
สำหรับการตอบรับที่ดีเกินคาดของคอนโดฯ ใหม่ นอกจากจะสนับสนุนต่อการสร้าง Backlog เพิ่มในปี 2571 แล้ว คาดยอดขายใหม่ดังกล่าว เมื่อบวกกับการเปิดขายแนวราบใหม่เพิ่มในไตรมาส 3/68 และการขายต่อเนื่องของโครงการเดิม จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อน Presale ไตรมาส 3/68 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เบื้องต้นประเมินในกรอบ +/-7.5 พันล้านบาท
ขณะที่ยอด Presale จะเร่งตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4/68 ตามแผนเปิดโครงการใหม่ที่จะมีมากสุดของปีทั้งกลุ่มแนวราบมูลค่าไม่ต่ํากว่า 1 หมื่นล้านบาท และคอนโดฯ อีกอย่างน้อย 2 โครงการ ทําให้ประมาณการ Presale ของฝ่ายวิจัยปีนี้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท มีโอกาสบรรลุได้ไม่ยาก คาดยอดขาย 9 เดือน มีสัดส่วนเกือบ 75% ของเป้าทั้งปี เพิ่มจาก 46% ในครึ่งปีแรกของปี 2568
อย่างไรก็ตาม แม้ความสําเร็จของโครงการคอนโดฯ ใหม่ ซึ่งจะหนุนต่อแนวโน้ม Presale ไตรมาส 3/68 คาดสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อบริษัท และราคาหุ้น แต่ด้วย upside ของราคาปัจจุบันที่จํากัด เมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐานปี 2568 จึงคงน้ำหนักลงทุน Neutral โดยโครงการซื้อหุ้นคืนที่ดําเนินการอยู่ ถึง 29 ส.ค.2568 ซื้อรวม 62 ล้านหุ้น มูลค่า 880.6 ล้านบาท จากเป้าไม่เกิน 120 ล้านหุ้น มูลค่า 2 พันล้านบาท จะช่วยจํากัด Downside Risk ราคาหุ้น





