เปิดกลยุทธ์หุ้นเด่น รับรัฐบาล "อนุทิน" 2 ธีมหลัก คนละครึ่ง – ดอกเบี้ยขาลง

บล.เอเซีย พลัส เปิดกลยุทธ์ลงทุนรับรัฐบาล "อนุทิน" 2 ธีมหลัก คนละครึ่งโดยหุ้นที่แนะนำ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก-ส่ง (CPAXT, CRC, DOHOME, BJC, CPALL), กลุ่มอาหาร (SAPPE, CBG, TKN, OSP, M) และกลุ่มวัตถุดิบ (TVO, KSL, TU, CPF) กลยุทธ์การลงทุนธีมที่สองคือ การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
KEY
POINTS
- กลยุทธ์การลงทุนธีมแรกคือ การลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งรัฐบาลใหม่มีแผนจะนำกลับมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหุ้นที่แนะนำได้แก่ กลุ่มค้าปลีก-ส่ง (CPAXT, CRC, DOHOME, BJC, CPALL), กลุ่มอาหาร (SAPPE, CBG, TKN, OSP, M) และกลุ่มวัตถุดิบ (TVO, KSL, TU, CPF)
- กลยุทธ์การลงทุนธีมที่สองคือ การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐ โดยหุ้นที่แนะนำคือ VISA (DR: VISA80), HKEX (DR: HKEX23) และหุ้นปันผลสูงอย่าง SINGTEL (DR: SINGTEL80)
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หลังจากที่รู้ตัว นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 คือ อนุทิน ชาญวีรกูล กระบวนการถัดไป คือ นายกฯ มีหน้าที่ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วันนับจากการถวายสัตย์ซึ่งท่านได้เสนอ "4 ROADMAP/แนวทางหลัก" ที่จะเร่งดำเนินการทันทีหลังเข้ารับตำแหน่ง อาทิ
• แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และค่าครองชีพ : มุ่งลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น ค่าพลังงาน ค่าขนส่ง พร้อมแก้หนี้สินให้แก่เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย โดยเสริมสร้างรายได้ให้ชุมชนฐานรากอย่างเข้มแข็ง
• เสริมความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา : ดำเนินการผ่านสันติวิธี พร้อมชดเชย และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้มีการสูญเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว
• รับมือภัยธรรมชาติเต็มรูปแบบ : พัฒนาระบบเตือนภัย พร้อมระบบเยียวยา และฟื้นฟูอย่างเร็ว และเป็นธรรม โดยใช้ประสบการณ์จากสมัยที่ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ร่วมกับการควบตำแหน่งนี้ไปด้วยเพื่อขจัดอุปสรรค และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ
• ปราบปรามภัยสังคม : จัดการกับขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ และการพนันออนไลน์โดยทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน และพันธมิตรทางการเมืองอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังยืนยันจุดยืนที่จะ แก้ไขรัฐธรรมนูญ และจัดทำฉบับใหม่ ตามกระบวนการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และ ยุบสภาในกรอบเวลา 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ดังที่ได้ทำ MOA กับพรรคประชาชน ซึ่งทำให้มี TIME LINE ความชัดเจนมากขึ้น และสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนทุกประเภท
ส่วนการนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยประสบความสำเร็จในอดีตกลับมาใช้ใหม่อย่างนโยบายคนละครึ่ง ซึ่ง
ข้อดีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน
• QUICK WIN กระตุ้นเศรษฐกิจทันใจ : นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ประกาศว่าจะ นำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ภายใน 1 เดือนแรกของการทำงาน พร้อมใช้โครงสร้างระบบเดิมอย่าง ‘เป๋าตัง’ และ ‘ถุงเงิน’ ที่พร้อมใช้งานทันที โดยไม่ต้องสร้างใหม่
• ต้นทุนประหยัด แต่มีประสิทธิผล : นโยบายนี้ได้รับการยอมรับว่ามีความ "คุ้มค่ากว่า" โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะใช้งบประมาณน้อยกว่ามาก แต่สามารถกระจายเม็ดเงินไปยังร้านค้ารายย่อยได้จริง โดยตัวเลขในอดีตบ่งชี้ว่าโครงการดังกล่าวตลอดการมีอยู่ตั้งแต่เฟส 1-5 ใช้วงเงินเฉลี่ยราว 2-3 หมื่นล้านบาทต่อรอบ เท่านั้น แต่สามารถกระตุ้น GDP ได้ราว 0.2%-0.4%
• เข้าใจง่าย ประชาชนและผู้ค้าคุ้นเคย : ความสำเร็จในอดีตของโครงการนี้เกิดจากรูปแบบที่ประชาชนเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานรากอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ธีมหลัก
1.หุ้นรับกระแสโครงการคนละครึ่ง
2.หุ้นรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงภาพรวม SET INDEX สดใส หลังรู้ตัวนายกฯ คนที่ 32 ดังสถิติในอดีตที่บ่งชี้ว่า วันสภาฯ โหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ SET INDEX มักขึ้นเฉลี่ย 0.6% และ1 สัปดาห์หลังจากนั้นมีโอกาสปรับขึ้นเฉลี่ย 1.7% ดังนั้นจึงคาดว่า SET INDEX ระดับปัจจุบันยังมี MOMENTUM ไปต่อได้
โดยกลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ธีมหลัก ดังนี้
1. หุ้นรับกระแสโครงการคนละครึ่ง ค้าปลีก – ส่ง : CPAXT, CRC, DOHOME, BJC, CPALL อาหาร : SAPPE, CBG, TKN, OSP, M วัตถุดิบ : TVO, KSL, TU, CPF
2. หุ้นรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ตาม BOND YIELD 10Y สหรัฐต่ำสุดในรอบ 5 เดือน อาทิ หุ้นเด่น ดอกเบี้ยขาลง VISA (DR: VISA80) หุ้นตลาดหลักทรัพย์ HKEX (DR: HKEX23) หุ้น HIGH YIELD ฝั่ง EMERGING SINGTEL (DR : SINGTEL80) DIV 4.1% EMERGING SINGTEL (DR : SINGTEL80) DIV 4.1%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์





