หุ้นสหรัฐ ปรับตัวลง จ้างงานชะลอลงมาก กังวลเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอย

ซีเอ็นบีซี รายงาน หุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปิดตลาดในวันศุกร์ (5 ก.ย.68) ปรับตัวลดลง หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังชะลอตัวลง แม้ว่าความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยิ่งมีมากขึ้นก็ตาม

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดลดลง 0.32% ที่ 6,481.50 จุด ขณะที่ ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ปิดตลาดลดลง 0.03% ที่ 21,700.39 จุด

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์  Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดลดลง 220.43 จุด หรือ 0.48% ที่ 45,400.86 จุด

ดัชนีนำทั้งสามดัชนีทำสถิติสูงสุดใหม่ระหว่างวันก่อนหน้านี้ โดยในช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวม ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และดัชนี Dow Jones ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มบลูชิพ ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5%, 0.8% และ 0.3% ตามลำดับ 

สำนักงานสถิติแรงงานรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์สำรวจโดยบริษัทดาวโจนส์คาดการณ์ไว้ที่ 75,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นเป็น 4.3% สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้

รายงานดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นักลงทุนยังประเมินว่าอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ทั้งนี้ ตามเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch

“การจ้างงานที่ชะลอตัวลง ประกอบกับอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวลง ล้วนสนับสนุนมุมมองที่ว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในตลาดแรงงานได้ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ” เจมี ค็อกซ์ หุ้นส่วนผู้จัดการของแฮร์ริส ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าว “ข้อมูลการจ้างงานเหล่านี้ทำให้เฟดมีเหตุผลต้องปรับเปลี่ยนสมดุลความเสี่ยงและลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในสองสัปดาห์”

ก่อนวันเผยแพร่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนสิงหาคม ตลาดหุ้นไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนกำลังเดิมพันว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาแต่เศรษฐกิจไม่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะถดถอย 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงานเดือนมิถุนายนได้รับการปรับปรุงใหม่ที่แสดงถึงการจ้างงานติดลบครั้งแรกนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ อาจจะเริ่มก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

แม้หุ้นจะลดลงในวันศุกร์ แต่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ยังคงปิดสัปดาห์สูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 0.33% และ 1.14% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปิดสัปดาห์นี้ลดลง 0.32%

JPMorgan และ Wells Fargo ลดลง เนื่องจากความกังวลว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อ บริษัทอุตสาหกรรม Boeing

และ GE Aerospace ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจที่มีปัญหาอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของคำสั่งซื้อ

อย่างไรก็ตาม Broadcom เป็นหุ้นที่โดดเด่น โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้น 9.4% หลังจากผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุดของผู้ผลิตชิปที่สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

ด้านหุ้น Nvidia ร่วงลง 2.7% เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Broadcom อาจส่งสัญญาณว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังเพิ่มขึ้น Palantir

อีกหนึ่งบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังถูกกดดันในช่วงหลัง ร่วงลงประมาณ 2%