หุ้นไทยวันนี้ (5 ก.ย.) ปิดบวก 12.25 จุด ตลาดรับ ‘อนุทิน’ เป็นนายกฯ

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (5 ก.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,264.80 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด หรือ 0.98% "นักวิเคราะห์" ชี้ เป็นเพราะมีความชัดเจนทางการเมืองและแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ย
"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (5 ก.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,264.80 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด หรือ 0.98% โดยดัชนีฯหุ้นไทย เคลื่อนไหวในแนวโน้มผันผวนตลอดวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,270.31 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,258.62 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 51,629.81 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
- KBANK ราคาปิด 170.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.58% มูลค่าซื้อขาย 2,791.78 ล้านบาท
- GULF ราคาปิด 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.06% มูลค่าซื้อขาย 2,079.52 ล้านบาท
- PTT ราคาปิด 31.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.79% มูลค่าซื้อขาย 1,776.48 ล้านบาท
- ADVANC ราคาปิด 293.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.34% มูลค่าซื้อขาย 1,749.59 ล้านบาท
- THAI ราคาปิด 13.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง 0.00 บาท หรือ 0.00% มูลค่าซื้อขาย 1,721.69 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเป็นบวกทั้งวันจากปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจัยต่างประเทศมาจากแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง ที่ตลาดปรับคาดการณ์การลดดอกเบี้ยปีหน้าจาก 4 ครั้งเป็น 6 ครั้ง ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลกลับเข้ามายังตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศได้แรงหนุนจากความชัดเจนทางการเมือง หลังมีการเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
แนวโน้มสัปดาห์หน้า-ตลาดจับตารายชื่อครม.
ตลาดยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวก โดยดัชนี SET สามารถยืนเหนือระดับ 1,260 จุดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความคาดหวังที่จะปรับตัวขึ้นไปถึงบริเวณ 1,280-1,300 จุด สิ่งที่ตลาดจับตาในสัปดาห์หน้าคือการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญอย่างรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ต่างประเทศ พาณิชย์ และพลังงาน ซึ่งหากมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีคนนอกที่ได้รับการยอมรับจากตลาดจะช่วยเสริมความเชื่อมั่น
คำแนะนำการลงทุน-เน้นหุ้นป้องกันความเสี่ยง
นักวิเคราะห์แนะนำให้เน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ อย่างหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น GULF, ADVANC, BGRIM ที่มีลักษณะ defensive สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แม้จะมีแรงหนุนในระยะสั้น แต่แนะนำให้รอซื้อในช่วงที่อ่อนตัว เนื่องจากมักเข้าสู่ช่วงการถูกขายทำกำไรหลังช่วงปลายก.ค.-ต้นก.ย.






