โบรกเกอร์ให้ 'ยุบสภา' เป็นบวกหุ้นไทย 5.3% อิงสถิติเลือกตั้ง 5 ครั้ง ล่าสุดหุ้นปิโตร-แบงก์-ค้าปลีก

โบรกเกอร์ให้ 'ยุบสภา' เป็นบวกหุ้นไทย  5.3%   อิงสถิติเลือกตั้ง 5 ครั้ง ล่าสุดหุ้นปิโตร-แบงก์-ค้าปลีก

บล.กรุงศรี เปิดกลยุทธ์เกาะติดธีมเลือกตั้งหลังยุบสภา SET ตอบรับทางบวก อิงสถิติก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด (ในช่วง 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง SET มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +5.3% นำโดยปิโตร-แบงก์-การเงิน-ค้าปลีก

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี  มองสถานการณ์การเมืองไทยยังอยู่ในช่วงรอยต่อแม้กระแสข่าวจะดูสับสนในหลายด้าน  แต่ประเมินภาพบวกที่กำลังจะมีทางออกด้านใดด้านหนึ่งขณะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจช่วงรอยต่อที่มีแนวโน้มจำกัด และสั้นมาก หลังร่าง พ.ร.บ. ประมาณปี 2569 ผ่านการพิจารณา สว. แล้ว 

นอกจากนี้ ข้อสรุปท่าทีพรรคประชาชนที่เป็นกำลังเป็นตัวแปรสำคัญขั้นตอนเลือกนายกฯใหม่ (กรณีพรรคเพื่อไทยไม่ยุบสภา ซึ่งในอีกด้านหนึ่ง หากยุบสภาก็ต้องติดตามกรอบอำนาจที่มีอีกประเด็น) จะมีข้อสรุปวันนี้ (3 ก.ย.68)

 

 

 

 

       

           

อิงความคืบหน้าหลักๆ ดังนี้ วุฒิสภามีมติเห็นชอบผ่านพ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 เรียบร้อยเห็นด้วย151 เสียงไม่เห็นด้วย 1 เสียงงดออกเสียง 27 เสียงถัดไปรอนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประเมินเป็นบวกต่อSET Index มองช่วยจำกัดDownside

ช่วงรอยต่อการเมือง และปลดล็อก Over hang ตลาดประเด็นนี้ไป และมองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้น Domestic อาทิกลุ่มค้าปลีก CPALL - HMPRO กลุ่มเช่าซื้อ MTC กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO กลุ่มรับเหมา CK, STECON กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE)

         

บล.กรุงศรี คงมุมมองการเมืองกำลังเข้าสู่จุดที่จะถูก Refresh ใหม่ 1.กรณีพรรคประชาชนเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งแต่เสียงรัฐบาลตามเงื่อนไขพรรคของพรรคประชาชนที่ไม่ร่วมรัฐบาลคาดเป็นไปได้สูงที่ออกมาเป็นภาพรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ และน่าจะตามเงื่อนไขที่ตกลงกับพรรคประชาชนในส่วนการยุบสภาใน 4 เดือนเพื่อเลือกตั้งใหม่

2.กระแสอีกด้านพรรคเพื่อไทยอาจพิจารณายุบสภาก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่เช่นกันหากทางเลือกนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่หรือกรณีอื่นที่ได้รัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ+ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจได้กลยุทธ์กรณีเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

ประเมิน SET มีโอกาสตอบรับทางบวกเหมือนในอดีต อิงบริบทปัจจุบัน 1.เสถียรภาพรัฐบาลที่ต่ำช่วงหลัง ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายไม่ราบรื่น  2. Fund Flows ต่างชาติสลับออกจากตลาดหุ้นไทย ขณะที่ปัจจุบันกำลังมีแรงหนุนสภาพคล่องในระบบเพิ่ม จากโอกาสลดดอกเบี้ย Fed ในรอบประชุม ก.ย.

 3.รอยต่อการเมืองกระทบเศรษฐกิจจำกัด 4. SET อยู่ในโซนลงทุนมี Current Equity Risk Premium ที่ 5.48% เทียบเท่า AVG + 2.5 S.D. อิงสถิติก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด (พ.ค.23, มี.ค.19, ก.พ. 11, ธ.ค. 07, ก.พ. 05, ม.ค. 01) ในช่วง 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง SET มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +5.3% (ความน่าจะเป็นผลตอบแทนบวก 60%)

กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่า SET คือ กลุ่มปิโตรเคมี +12.6% (ความน่าจะเป็นผลตอบแทนบวก 60%) กลุ่มพลังงาน +9.8% (60%)  ประเมินมาจากผลบวก Fund Flows เป็นหลัก ทั้งนี้ อิง Cycle รอบนี้แนะนำหุ้นปิโตรเคมีธีม Anti-involution คือ PTTGC IVL ผสานกลุ่มโรงกลั่น TOP

กลุ่มที่ผลตอบแทนใกล้เคียง SET คือ กลุ่มธนาคาร +4.8% (60%) กลุ่มโรงพยาบาล +4.8%(40%) กลุ่มการเงิน +4.8% (40%) กลุ่มค้าปลีก +4.7% (60%) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Domestic ที่มีโอกาสได้ประโยชน์ระยะสั้นเม็ดเงินสะพัดก่อนเลือกตั้งผสานนโยบายพรรคการเมืองส่วนใหญ่เน้นกระตุ้นภายใน ในกลุ่มนี้แนะนำหุ้นค้าปลีก เน้นกลุ่มที่มีสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัด CPALL, GLOBAL กลุ่มธนาคาร SCB, KTB, KBANK และกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ Deep Value + คาดเป็นเป้าหมาย Fund Flows อาทิ BH, BDMS

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์