หุ้น PLANB-VGI บวกพุ่ง 10.86% เก็งกำไรเม็ดเงินหาเสียงเลือกตั้ง หลังมีกระแสเตรียม 'ยุบสภา'

หุ้น PLANB และ VGI ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย PLANB พุ่งขึ้น 10.86% และ VGI บวก 2.86% ในการซื้อขายภาคเช้า นักวิเคราะห์ระบุว่าการปรับขึ้นของหุ้นเป็นผลมาจากการที่ตลาดเก็งกำไรเกี่ยวกับเม็ดเงินที่จะสะพัดในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
KEY
POINTS
- หุ้น PLANB และ VGI ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย PLANB พุ่งขึ้น 10.86% และ VGI บวก 2.86% ในการซื้อขายภาคเช้า
- นักวิเคราะห์ระบุว่าการปรับขึ้นของหุ้นเป็นผลมาจากการที่ตลาดเก็งกำไรเกี่ยวกับเม็ดเงินที่จะสะพัดในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
- แรงเก็งกำไรดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเตรียม 'ยุบสภา' ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด
- หากมีการเลือกตั้งใหม่จริง กลุ่มธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านอย่าง PLANB และ VGI จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากงบประมาณการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 3 ก.ย.2568 เวลา 10.05 น. หุ้น PLANB หรือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) บวก 10.86% เพิ่มขึ้น 0.48 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 4.90 บาท และ หุ้น VGI หรือ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) บวก 2.86% เพิ่มขึ้น 0.06 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.16 บาท
วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้น PLANB และ VGI มีการปรับตัวขึ้นในวันนี้ ซึ่งตลาดอาจจะกำลังเล่นประเด็นเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้ง เนื่องจากหามีการเลือกตั้งใหม่จริง เม็ดเงินในการหาเสียงเลือกตั้งจะสะพัดออกมา ซึ่งกลุ่มมีเดีย กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีการยุบสภา การเลือกตั้งก็จะมาเร็วขึ้น และแม้จะไม่มีการเลือกตั้งในทันที แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เช่น หาก อนุทิน ชาญวีรกูล ได้เป็นผู้นำ ก็ยังต้องมีการเลือกตั้งภายใน 6 เดือนอยู่ดี ดังนั้น ในช่วง 6 เดือนนี้ก็ยังคงต้องมีการดึงคะแนนเสียง ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินหาเสียงสะพัด
สำหรับคำแนะนำ จากการพิจารณาเทรนด์ราคาในกราฟเทคนิคคอล PLANB ดูมีความชัดเจนและแข็งแกร่งกว่า และดูเหมือนจะสามารถเบรกแนวต้านระยะสั้นหรือเทรนด์ระยะสั้นได้ชัดเจนกว่า VGI
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดและการเมือง ยังคงมี Upside จำกัด หากสถานการณ์การเมืองยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการยุบสภาว่า จะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เมื่อใด และจะยุบได้จริงหรือไม่ ดังนั้นยังมีความเสี่ยงที่ตลาดจะชะลอตัว หากข่าวสารเกี่ยวกับการยุบสภาและการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน





