แบงก์แตะเบรก 'หุ้นจีน' ห้ามใช้บัตรเครดิตลงทุน หวั่นลามระบบการเงิน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ของ “จีน” กำลังเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตไปลงทุนในหุ้น  

หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนกำลังร้อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือนนี้เพียงเดือนเดียว ทำให้มีสัญญาณเตือนหลายอย่าง เช่น การซื้อขายแบบมาร์จิน และปริมาณการซื้อขายที่สูงเกินไป ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าความยั่งยืนของการฟื้นตัวนี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง 

สถานการณ์นี้ โบรกเกอร์ และบริษัทจัดการกองทุนบางแห่งในประเทศเริ่มลดการจัดหาเงินทุน และจำกัดการซื้อหุ้นลง 

รวมทั้งก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินหลายแห่ง นำโดยธนาคารไชน่าหมินเฉิงแบงกิ้งคอร์ป และธนาคารหัวเซี่ยได้ออกประกาศเตือนเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า เงินจากบัตรเครดิตหรือการเบิกเงินสดล่วงหน้าไม่สามารถนำไปใช้ในการลงทุนได้ และหากมีการฝ่าฝืน ทางธนาคารอาจดำเนินการยกเลิกธุรกรรม และจำกัดการใช้งานบัตรเครดิตของผู้กระทำผิดทันที

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า  คำเตือนล่าสุดของธนาคารจีน ที่ห้ามใช้บัตรเครดิตเพื่อการลงทุนยังไม่ชัดเจนว่าเป็นคำสั่งโดยตรงจากหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ แต่ในอดีตที่ผ่านมา หน่วยงานจีนมักจะเข้าแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้น เมื่อตลาดร้อนแรงเกินไป

สื่อรัฐบาลจีนเตือน เสี่ยงทำตลาดป่วนหนัก

บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Securities Daily ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ได้ออกมาเตือนอย่างชัดเจนเมื่อวานนี้ว่า การนำเงินจากบัตรเครดิตไปลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะบัตรเครดิตเป็นหนี้ระยะสั้นที่มีต้นทุนสูง หากนำไปใช้ลงทุนในหุ้นซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านหนี้สินได้อย่างมาก

นอกจากนี้ การเก็งกำไรโดยใช้เงินทุนจากบัตรเครดิตจะยิ่งทำให้ราคาหุ้นผันผวนรุนแรงเกินจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้ถือบัตรขาดทุนและผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด

หนังสือพิมพ์ยังระบุด้วยว่า การกระทำเช่นนี้จะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในตลาดอย่างร้ายแรง และอาจทำให้ความเสี่ยงขยายวงกว้างจากตลาดหุ้นไปสู่ระบบธนาคาร ซึ่งจะคุกคามความมั่นคงทางการเงิน โดยรวมของประเทศได้เลยทีเดียว

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์