ด่วน! ดุสิตธานี เตรียมประชุมผู้ถือหุ้นถอดถอน 'ชนินทธ์ โทณวณิก' จากตำแหน่งกรรมการ

ด่วน! ดุสิตธานี เตรียมประชุมผู้ถือหุ้นถอดถอน  'ชนินทธ์ โทณวณิก' จากตำแหน่งกรรมการ

บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 กันยายน 2568 เพื่อพิจารณาวาระการถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท

KEY

POINTS

  • บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 กันยายน 2568 เพื่อพิจารณาวาระการถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท
  • วาระการถอดถอนนี้ถูกเสนอโดย "บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด" ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 10% ของหุ้นทั้งหมด
  • คณะกรรมการบริษัท (ไม่รวมผู้มีส่วนได้เสีย) มีความเห็นว่าการถอดถอนนายชนินทธ์ อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท, โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย โดยได้เน้นย้ำถึงประสบการณ์ และบทบาทสำคัญของนายชนินทธ์
  • นอกจากการถอดถอนแล้ว ยังมีวาระพิจารณาเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ โดยเสนอให้ตัดชื่อนายชนินทธ์ออกจากหนึ่งในกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท
  •  

บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 15.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพื่อพิจารณาวาระสำคัญหลายวาระ รวมถึงการพิจารณาอนุมัติถอดถอน นายชนินทธ์ โทณวณิก ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท

ทั้งนี้ วาระสำคัญดังกล่าวถูกเสนอขึ้นตามคำขอของ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยใช้สิทธิภายใต้อำนาจตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) คณะกรรมการบริษัท จึงได้ดำเนินการนำเสนอวาระดังกล่าวเพื่อให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณา
 

โดยความเห็นของคณะกรรมการบริษัท (ยกเว้นกรรมการผู้มีส่วนได้เสีย) คณะกรรมการบริษัท ซึ่งไม่รวมกรรมการผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ (ได้แก่ นายชนินทธ์ โทณวณิก และนางสินี เธียรประสิทธิ์) ได้มีความเห็นเพิ่มเติม และแนะนำให้ผู้ถือหุ้น ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ ในการพิจารณาวาระการถอดถอน นายชนินทธ์ โทณวณิก คณะกรรมการฯ ได้ชี้แจงเหตุผลสำคัญในการพิจารณาไว้ดังนี้

คณะกรรมการเชื่อว่าคุณสมบัติของกรรมการบริษัทควรสอดคล้องกับธุรกิจหลักของดุสิต คือ ด้านโรงแรม และอาหาร ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้นำที่มีความเข้าใจในธุรกิจ และการปฏิบัติการอย่างลึกซึ้ง รวมถึงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับบทบาทสำคัญของนายชนินทธ์ โทณวณิก เป็นบุคคลที่มี ประสบการณ์ยาวนาน ในธุรกิจโรงแรม และอาหาร เป็นทายาทคนโตของผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี และเป็นผู้ที่ทราบ และเข้าใจความเป็นมาของโรงแรมเป็นอย่างดี รวมถึงยังเป็นบุคคลสัญลักษณ์ของดุสิตธานี และสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ในการรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยของโรงแรมดุสิตธานีมาจนถึงปัจจุบัน และมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ในวงการ hospitality และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล

นอกจากนี้ยังเป็นผู้ริเริ่ม และผู้นำ ในการดำเนินโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของบริษัท ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท และตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อให้ดุสิตมีความทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยเพื่อเป็นมรดกตกทอดไปถึงรุ่นลูกหลานของไทย

ส่วนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการบริษัท มีความเห็นว่า การถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รวมถึงโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ที่มีต่อบริษัท

สำหรับ วาระที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการ นอกจากวาระการถอดถอนนายชนินทธ์ แล้ว การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้ยังมีวาระอื่นๆ ที่ถูกเสนอโดยผู้ถือหุ้นรายเดียวกันภายใต้มาตรา 100 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการ เช่น การพิจารณาเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่พ้นตำแหน่งตามวาระ จำนวน 4 คน การพิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการ และกรรมการอิสระอีก 6 คน และที่สำคัญคือ การพิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ จากเดิมที่กำหนดให้นายชนินทธ์ โทณวณิก เป็นหนึ่งในกรรมการผู้มีอำนาจลงนามร่วมกัน เป็นการกำหนดให้นางสินี เธียรประสิทธิ์, ดร.กฤษดา กวีญาณ และนายศุภศักดิ์ จิรเสวีนุพันธ์ เป็นผู้มีอำนาจลงนามร่วมกันสองในสามคนแทน

โดย ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) ได้กำหนดไว้ในวันที่ 10 กันยายน 2568. บริษัทจึงเน้นย้ำให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูล และผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจในวาระสำคัญเหล่านี้

บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ขาดทุนสุทธิ 291 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% มาที่ 1,699 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจโรงแรม และการศึกษา แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากฤดูกาล และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่กำไร 6 เดือนแรกของปี 2568 ขาดทุน 243 ล้านบาท รายได้อยู่ที่ 4,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.40%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์