หุ้นไทยเปิดเช้านี้ บวกพุ่ง 14 จุด แรงหนุนคาดเฟดลดดอกเบี้ย ก.ย. ติดตามคดีคลิปเสียงปลายสัปดาห์นี้

หุ้นไทยเปิดเช้านี้ บวกพุ่ง 14 จุด  แรงหนุนคาดเฟดลดดอกเบี้ย ก.ย. ติดตามคดีคลิปเสียงปลายสัปดาห์นี้

"หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 25 ส.ค.2568 เปิดตลาดปรับขึ้น บวก 14.00 จุด หรือ 1.12% อยู่ที่ 1,267.39 จุด โบรกคาด แรงหนุนคาดเฟดลดดอกเบี้ย ก.ย. ติดตามคดีคลิปเสียงปลายสัปดาห์นี้

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าเปิดบวก 14.00 จุด หรือ 1.12% อยู่ที่ 1,267.39 จุด รับความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ย
  • ปัจจัยหนุนหลักมาจากการประชุม Jackson Hole ซึ่งประธานเฟดเปิดทางลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาต่ำ
  • เครื่องมือ FED Watch Tool ชี้โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 81% จากเดิม 72% ซึ่งเป็นแรงเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
  • ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 29 ส.ค.
  • นักวิเคราะห์ประเมินกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1240-1270 จุด แนะหาจังหวะเข้าซื้อช่วง 1,235-1,250 จุด และไม่ควรไล่ซื้อหากดัชนีสูงกว่า 1,260 จุด

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 25 ส.ค.2568 เปิดตลาดปรับขึ้น บวก 14.00 จุด หรือ 1.12% อยู่ที่ 1,267.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,814.83 ล้านบาท

หุ้นไทยเปิดเช้านี้ บวกพุ่ง 14 จุด  แรงหนุนคาดเฟดลดดอกเบี้ย ก.ย. ติดตามคดีคลิปเสียงปลายสัปดาห์นี้

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับปัจจัยบวกจากความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังการประชุม Jackson Hole ทั้งนี้ เหตุผลสนับสนุนของการลดดอกเบี้ยมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างการจ้างงานในเดือนล่าสุดออกมาต่ำ โดยอยู่ที่ประมาณ 17,000-74,000 ตำแหน่ง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบประมาณ 2.7- 2.9% มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจต้องโน้มเอียงไปทางพิจารณาประเด็นการจ้างงานมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับวันนี้ตลาดน่าจะปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ทว่าในขณะเดียวกันก็มองว่า ระดับราคาในปัจจุบันเริ่มตึงตัว แนะนำนักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อช่วง 1,235-1,250 จุด ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อ และไม่ควรเข้าซื้อหากดัชนีปรับตัวสูงกว่า 1,260 จุด และควรเน้นไปที่หุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3/68 เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว  

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า จากการประชุม Jackson Hole ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพลเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) บ่งชี้ว่าความเสี่ยงเริ่มเอียงไปทางการจ้างงานมากขึ้น หลังจากตัวเลขที่อ่อนแอ ขณะที่เงินเฟ้อแม้จะสูงกว่าเป้าหมาย และมีประเด็นภาษีนำเข้าระยะสั้น แต่คาดเป็นประเด็นเพียงชั่วคราว โดยโพเวล เปิดทางที่จะลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. แต่ยังต้องขึ้นกับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่กำลังทยอยออกมาในระยะสั้น

จากสุนทรพจน์ดังกล่าว หนุนให้โอกาสความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. จากเครื่องมือ FED Watch Tool เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 81% จากก่อนที่จะแถลง ซึ่งอยู่บริเวณ 72% คาดจะเป็นแรงเก็งเพิ่มเติมในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

สำหรับความคืบหน้าประเด็นการเมืองในประเทศ ล่าสุดพบว่าปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้พิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในคดีที่ถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขณะที่ในสัปดาห์นี้ ติดตามประเด็นศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ถูกร้องประเด็นคลิปเสียงการสนทนา ในวันที่ 29 ส.ค. นี้

นอกจากนี้ยังแนะติดตามตัวเลขส่งออกไทยวันนี้ และการปรับพอร์ต MSCI ในวันพรุ่งนี้ โดยกลยุทธ์ประเมินจังหวะตลาดย่อเป็นโอกาสในการทยอยสะสม คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1240-1270 จุด

GULF กำไรไตรมาส 2/68 ขยายตัวอย่ำงโดดเด่น แรงหนุนจากช่วงฤดูร้อนไทยส่งผลให้ปริมาณการขายไฟเร่งขึ้น q-q ผสานการรับรู้เงินปันผลของ KBANK 977 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมปรับเพิ่มขึ้นทั้ง q-q, y-y คาดแนวโน้มในช่วงถัดไป ยังมีทิศทางที่ขยายตัวต่อเนื่อง ผสานจิตวิทยาเชิงบวกจากการปรับลดดอกเบี้ยของ FED และ กนง. เป็นแรงหนุนเพิ่มเติม ราคาเป้าหมาย 60 บาท