7 หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ บวกยกแผง HANA พุ่ง 6.03% ครึ่งหลังฟื้นตัวธุรกิจใหม่ ระบบความเย็น AI -โมดูลรถยนต์ไฟฟ้า

หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 7 บริษัทปรับตัวขึ้นยกแผง นำโดย HANA ที่ราคาพุ่งขึ้น 6.03% มาอยู่ที่ 24.60 บาท โบรกเผย การปรับขึ้นของกลุ่มได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมนักวิเคราะห์ของ HANA ซึ่งชี้ให้เห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจใหม่
KEY
POINTS
- หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 7 บริษัทปรับตัวขึ้นยกแผง นำโดย HANA ที่ราคาพุ่งขึ้น 6.03% มาอยู่ที่ 24.60 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 22 ส.ค. 2568
- การปรับขึ้นของกลุ่มได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมนักวิเคราะห์ของ HANA ซึ่งชี้ให้เห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจใหม่
- ธุรกิจใหม่ที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของ HANA คือ ระบบทำความเย็นด้วย AI (AI cooling systems) และโมดูลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV modules)
- ตลาดคาดการณ์ว่าผลประกอบการของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในครึ่งปีแรก และจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 เวลา 10.10 น. หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บวกยกแผง นำโดย
- หุ้น HANA บวก 6.03% เพิ่มขึ้น 1.40 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 24.60 บาท
- หุ้น CCET บวก 3.31% เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 6.25 บาท
- หุ้น KCE บวก 2.80% เพิ่มขึ้น 0.75 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 27.50 บาท
- หุ้น NEX บวก 2.44% เพิ่มขึ้น 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.84 บาท
- หุ้น DELTA บวก 1.71% เพิ่มขึ้น 2.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 149.00 บาท
- หุ้น SVI บวก 1.69% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 6.00 บาท
- หุ้น SMT บวก 0.71% เพิ่มขึ้น 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.41 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า HANA มีการประชุมกับนักวิเคราะห์วานนี้ (21 ส.ค.2568) ซึ่งผลออกมาเป็นโทนบวก ส่งผลให้ตลาดเริ่มมองกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในเชิงบวกมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่า HANA จะเผชิญกับประเด็นภาษีของทรัมป์และค่าเงินบาทที่แข็งค่า แต่บริษัทกลับเห็นโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ในด้าน ระบบทำความเย็นด้วย AI และ โมดูลรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ บริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เริ่มบริหารจัดการผลกระทบจากภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาถึงจุดสูงสุดแล้ว และเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการแทรกแซงหากเงินบาทแข็งค่าเกิน 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ผู้ส่งออกไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากไปกว่านี้
"ตลาดเริ่มมีการคาดการณ์ว่า ผลประกอบการในครึ่งปีแรกของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะเป็นจุดต่ำสุด และคาดว่าครึ่งปีหลังจะค่อยๆ ฟื้นตัว แม้ว่าอัตราการฟื้นตัวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่ภาพรวมของกลุ่มดูเป็นบวกมากขึ้น"
สำหรับคำแนะนำ HANA มีความน่าสนใจ แต่ทว่าราคาหุ้นปรับขึ้นแรงมากถึง 2 วันติดต่อกัน จาก 21 บาท เป็น 24.4 บาท จึงแนะนำให้ รอจังหวะย่อตัว ค่อยเข้าซื้อ ถึงแม้ว่า HANA ราคาต่ำกว่า 25 บาท จะยังคงถือว่า "ถูก" หากมองในระยะยาว แต่การไล่ซื้อในขณะที่ราคาขึ้นมาแรงถึง 3-4 บาทแล้ว อาจมีความเสี่ยงและเสียเปรียบ ดังนั้น การรอให้มีการปรับฐานหรือย่อตัวลงมาจึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่า







