หุ้น SJWD บวก 4.12% โบรก เผยกำไรแข็งแกร่ง ควบคุมต้นทุนได้ดี

หุ้น SJWD บวก 4.12% โบรก เผยกำไรแข็งแกร่ง ควบคุมต้นทุนได้ดี

หุ้น SJWD บวก 4.12% เพิ่มขึ้น 0.40 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 10.10 บาท โบรก เผยกำไรแข็งแกร่ง ควบคุมต้นทุนได้ดี กลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ประกอบกับการจัดสรรเงินทุนอย่างรอบคอบ และการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสด ช่วยเสริมสร้างมูลค่าในระยะยาว ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 21 ส.ค.2568 เวลา 11.00 น.หุ้น SJWD หรือ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) บวก 4.12% เพิ่มขึ้น 0.40 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 10.10 บาท

หุ้น SJWD บวก 4.12% โบรก เผยกำไรแข็งแกร่ง ควบคุมต้นทุนได้ดี

บล.ทิสโก้ ระบุว่า หลังการประชุมนักวิเคราะห์ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ SJWD ซึ่งอยู่ในสถานะที่เหมาะสมที่จะสามารถสร้างการเติบโตของกำไรอย่างยั่งยืนในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายรายได้ที่มั่นคง ประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริหารต้นทุนอย่างมีวินัย และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการชำระหนี้เชิงรุกและการรีไฟแนนซ์ กลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มโลจิสติกส์ที่มีการเติบโตสูง ประกอบกับการจัดสรรเงินทุนอย่างรอบคอบ และการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสด ช่วยเสริมสร้างมูลค่าในระยะยาว เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
 

ทั้งนี้ SJWD ยังคงแสดงผลงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลักสำคัญ รวมถึง การขนส่ง โลจิสติกส์ยานยนต์ ธุรกิจต่างประเทศ และคลังสินค้า โดยเฉพาะบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มการให้บริการโลจิสติกส์แก่กลุ่ม SCC ให้ถึง 65–70% ของปริมาณโลจิสติกส์ทั้งหมดของ SCC ฝ่ายบริหารคาดว่า ธุรกิจยานยนต์จะได้รับประโยชน์จาก BYD และลูกค้าใหม่ รวมถึง AION, Changan, Geely เป็นต้น รายได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจาก SCG International Vietnam ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยโครงการ Longson ของ SCG ในเวียดนามจะเริ่มดำเนินการในเดือนสิงหาคม และคาดว่าจะสร้างรายได้ 400–500 ล้านบาท 

นอกจากนี้ คลังสินค้า SCG Nichirei Phase 3 ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ในขณะที่ Alpha Bangkradi มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายน บริษัทมีแผนขายคลังสินค้าแห่งหนึ่งเข้าสู่ REIT ในไตรมาส 3/2025 เพื่อสร้างรายได้สำหรับการลงทุนซ้ำและการลดหนี้ โดยคาดว่าจะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ 20–30 ล้านบาท นอกจากนี้ SJWD ยังมีแผนที่จะขยายการเติบโตจากภายนอก (inorganic) ผ่านการลงทุนในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์


ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่ากำไรปกติจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 และตลอดปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และรายได้จากส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มนี้ได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่คาดการณ์ไว้จาก Transimex, SWIFT และ Alpha ผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ น่าจะมีจำกัดเนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยยังคงใกล้เคียงกับประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ 

สำหรับความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา สัดส่วนการลงทุนในธุรกิจข้ามพรมแดนมีจำกัด ซึ่งคิดเป็นเพียง 2.7% ของรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ส่วนหนึ่งถูกโอนไปยังประเทศอื่น เปลี่ยนไปเป็นการขนส่งทางทะเล หรือเปลี่ยนเส้นทางผ่านเวียดนาม สัดส่วนการลงทุนในกัมพูชาเพิ่มเติมมาจากการดำเนินงานในต่างประเทศ ซึ่งคิดเป็น 3.7% ของรายได้ในไตรมาส 1/68 โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการและมูลค่าที่เหมาะสมที่คำนวณจากวิธี DCF ที่ 13.70 บาท โดยมี WACC ที่ 7.4% ต้นทุนส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 9.6% อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่ปราศจากความเสี่ยงที่ 3.2% และเบี้ยประกันความเสี่ยงตลาดที่ 6.4% ด้วยแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งและมูลค่าที่น่าสนใจของบริษัท เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ SJWD โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 13.70 บาท ซึ่งมีความเสี่ยงด้าน downside หลักยังคงเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในกลุ่มธุรกิจหลัก