หุ้นไทยวันนี้ 21 ส.ค.68 ไร้ปัจจัยใหม่ สัปดาห์หน้าไทยจับตาการเมืองไม่แน่นอน

บล.พาย ประเมิน SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1240 - 1260 จุด และยังไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ตการลงทุน เนื่องจากตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ สัปดาห์หน้าประเทศไทยมีความเสี่ยงทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรอดูการประชุม Jackson Hole ในคืนวันศุกร์ ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ค่อนข้างทรงตัวและไม่ได้ให้น้ำหนักกับปัจจัยอื่นมากนัก
KEY
POINTS
- บล.พาย ประเมิน SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1240 - 1260 จุด และยังไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ตการลงทุน เนื่องจากตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่
- สัปดาห์หน้าประเทศไทยมีความเสี่ยงทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี
- นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรอดูการประชุม Jackson Hole ในคืนวันศุกร์ ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ค่อนข้างทรงตัวและไม่ได้ให้น้ำหนักกับปัจจัยอื่นมากนัก
- กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, MINT, ERW และกลุ่มค้าปลีก BJC, CRC, CPALL, HMPRO
หุ้นไทยวันนี้ 21 ส.ค.68 บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 16 จุด +0.04% แต่ Nasdaq , S&P500 ปิดแดนลบเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่ม Tech
ราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.6% ตอบรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาดการณ์
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงาน สต็อกน้ำมันดิบ พบว่าลดลง 6 ล้านบาร์เรลลดลงมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.8 ล้านบาร์เรล ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเปิดเผยผลประชุม FED (ครั้งก่อน) พบว่าคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม (9 : 2) ส่วนคณะกรรมการ 2 ท่านเห็นว่าควรลดดอกเบี้ยเพราะกังวลกับตลาดแรงงาน
แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการส่วนใหญ่ยังประเมินว่า ความเสี่ยงเงินเฟ้อจากภาษีมีน้ำหนักมากกว่าการอ่อนแรงของตลาดแรงงาน หลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่า หลายๆ สินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนว่า นักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักใดๆ มากนักกับปัจจัยข้างต้น เพราะกำลังรอดูประชุม Jackson Hole ในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย
แต่หากเป็นปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ดัชนี PMI เบื้องต้นของสหรัฐฯ (Flash) และของฝั่ง EU รวมไปถึงยอดขายบ้านมือสอง Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 3.92 ล้านหลังคาเรือน
สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้พบว่า SET ฟื้นตัวขึ้นมาบวก 1% ได้แรงหนุนหลักที่เด่นชัดจากกลุ่มปิโตรเคมี SCC PTTGC PTT หลังมีรายงานออกมาว่า ทางเกาหลีใต้ประกาศว่าจะร่วมกันลดอัตราการดำเนินการของโรงงาน
แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะปัจจุบันของการผลิตปิโตรเคมียังเป็นลักษณะ Over Supply (กำลังการผลิตส่วนเกิน) ทำให้ราคาส่วนต่างปิโตรเคมียังฟื้นตัวแบบจำกัด จึงมองการฟื้นตัวของกลุ่มนี้เป็นเพียงระยะสั้นมากกว่าประกอบกับเศรษฐกิจโลกยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและหลังจากนี้เตรียมเผชิญกับผลกระทบจากนโยบายภาษีผสานกับส่งออกทั่วโลกจะเริ่มชะลอลงเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจทั้งโลก
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1240 - 1260 จุด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่แนะเพิ่มพอร์ตการลงทุนเพราะตลาดยังดูไร้ปัจจัยใหม่ประกอบกับสัปดาห์หน้าประเทศไทยจะมีความเสี่ยงทางการเมืองที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาในรูปแบบไหน อาจจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการลงทุนระยะสั้นเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว AOT CENTEL MINT ERW มีรายงานว่าจะเตรียมกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการสนับสนุนค่าเครื่องบินในประเทศ รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีก BJC CRC CPALL HMPRO หุ้นปันผลระหว่างที่น่าสนใจ SCB TACC







