หุ้นไทยวันนี้ 20 ส.ค.68 แรงกดตลาดหุ้นเอเชียแกว่งแดนลบ เคลื่อนไหวในกรอบ 1220 – 1240 จุด

หุ้นไทยวันนี้ 20 ส.ค.68 แรงกดตลาดหุ้นเอเชียแกว่งแดนลบ เคลื่อนไหวในกรอบ 1220 – 1240 จุด

หุ้นไทยวันนี้ 20 ส.ค.68 บล.พาย ประเมินดัชนี SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1220 – 1240 จุด โดยมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าที่ส่วนใหญ่แกว่งตัวในแดนลบ

KEY

POINTS

  • บล.พาย ประเมินดัชนี SET วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1220 – 1240 จุด โดยมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อเนื่อง
  • ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าที่ส่วนใหญ่แกว่งตัวในแดนลบ
  • นักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นฝ่ายขายสุทธิ 4 วันทำการติดต่อ และมีแนวโน้มจะขายต่อจากทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่า
  • นักลงทุนรอติดตามการประชุม Jackson Hole ในช่วงปลายสัปดาห์เพื่อจับทิศทางดอกเบี้ย ทำให้ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
  • การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ อาจสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทย

หุ้นไทยวันนี้ 20 ส.ค.68 บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 10.45 จุด +0.02% ขณะที่ Nasdaq ปรับลงค่อนข้างหนักจากแรงขายหุ้น NVIDIA โดยนักลงทุนรอดู Jackson Hole ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.2% นักลงทุนคาดการณ์ว่าเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับยูเครนอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรรัสเซีย

ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ เผยตัวเลขภาคอสังหาฯประกอบไปด้วยใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่พบว่ายอดสร้างบ้านใหม่รายงานที่ 1.43 ล้านหลังคา ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 1.29 ล้านหลังคาเรือน ส่วนใบขออนุญาตก่อสร้างรายงานที่ 1.35 ล้านใบอนุญาตแต่ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg คาดการณ์ไว้ แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขค่อนข้างผสมผสานนักลงทุนจึงมิได้ให้น้ำหนักมากนัก

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเคลื่อนไหวทรงตัว แต่ทิศทางเริ่มปรับขึ้นพร้อมกับ Dollar Index ที่เริ่มกลับมาแข็งค่า CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนัก 86% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยเดือนกันยายนและไปลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม มุมมองค่อนข้างเข้มงวดขึ้นเพราะก่อนหน้าเชื่อว่าจะลดดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้ง จากนี้รอติดตามการประชุม Jackson Hole ในช่วงปลายสัปดาห์อาจมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นช่วงนี้จะค่อนข้างเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆและส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าตลาด Price In ปัจจัยด้านเจรจาการค้าไปแล้ว

สำหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรที่มีนัยยะสำคัญแต่ก็เริ่มเห็น SET INDEX ปรับตัวลงมาแล้ว 2.4% จากจุดสูงสุดเดิม ซึ่ง Price In ปัจจัยบวกเจรจาการค้าไปแล้วประกอบกับ Valuation เริ่มสูงผสานกับเผชิญแรงกดดันจากกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มขายสุทธิ ขายสุทธิมาแล้ว 4 วันทำการติดต่อและมีแนวโน้มจะขายต่อเพราะทิศทางเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่า โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งในแดนลบอาจสร้างแรงกดดันต่อหุ้นไทยในวันนี้ คืนนี้รอติดตามสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ -0.8 ล้านบาร์เรล

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1220 -1240 มีความเสี่ยงปรับลงต่อเนื่องรับแรงกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียที่แกว่งแดนลบ พร้อมแนะจับตาการขายของนักลงทุนต่างชาติที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนแม้จะแนะลดพอร์ตการลงทุนไปก่อนหน้าแต่การปรับฐานลงมาเพียง 2.4% ยังไม่จูงใจสำหรับการเข้าสะสม แต่หากเน้นลงทุนระยะสั้นเน้นเลือกหุ้นปันผลสูงระหว่างกาล ตัวที่น่าสนใจได้แก่ SCB TACC และด้วยหุ้น Tech ในสหรัฐฯปรับลงอาจสร้างแรงกดดันกับหุ้นอิเล็กทรอนิกส์อาจเพิ่มความระมัดระวัง

ส่วนหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจได้แก่การเงิน MTC SAWAD ค้าปลีก BJC CPALL HMPRO