หุ้นไทยวันนี้ 19 ส.ค.68 อัพไซด์จำกัด ขาดปัจจัยหนุน กรอบ 1230 -1250 จุด

หุ้นไทยวันนี้ 19 ส.ค.68 อัพไซด์จำกัด ขาดปัจจัยหนุน กรอบ 1230 -1250 จุด

บล.พาย ประเมินดัชนีหุ้นไทย วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1230 -1250 จุด มอง Upside ยังจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำให้ลดพอร์ตเมื่อดัชนีปรับขึ้น และพิจารณาลงทุนในหุ้นปันผลระหว่างกาล เช่น SCB, KBANK และหุ้นกลุ่ม Defensive อย่าง BDMS

KEY

POINTS

  • บล.พาย ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1230 – 1250 จุด โดยมองว่า Upside ยังจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ
  • เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/68 ขยายตัว 2.8% ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า และสภาพัฒน์คาดการณ์ทั้งปีจะโตเพียง 2% ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังอาจโตแค่ 1% เป็นแรงกดดันต่อการลงทุน
  • ปัจจัยลบเพิ่มเติมมาจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิ 644 ล้านบาท สะท้อนว่า Valuation หุ้นไทยเริ่มแพงและรับข่าวดีไปมากแล้ว
  • กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะนำให้ลดพอร์ตเมื่อดัชนีปรับขึ้น และพิจารณาลงทุนในหุ้นปันผลระหว่างกาล เช่น SCB, KBANK และหุ้นกลุ่ม Defensive อย่าง BDMS

หุ้นไทยวันนี้ 19 ส.ค.68 บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดลบ 34 จุด -0.08% ไร้ปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนรอดูการประชุม Jackson Hole ช่วงปลายสัปดาห์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.1% หลังจาก Trump ได้เข้าพูดคุยกับเซเลนสกี

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ ได้ประกาศการขยายตัวเศรษฐกิจไทยประจำช่วงไตรมาส 2/68 พบว่าขยายตัว 2.8%YoY ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ การขยายตัวชะลอลงจากไตรมาส 1/68 ที่ 3.2%YoY ปัจจัยกดดันหลักๆ มาจากการชะลอตัวของการผลิตนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สำหรับด้านการใช้จ่ายภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังขยายตัวเด่น 12%YoY ตามการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ โดยทางสภาพัฒน์คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเฉลี่ยในปีนี้ 2%YoY

ทั้งนี้ ด้วยเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกขยายตัว 3%YoY แต่ทั้งปีขยายตัวเฉลี่ย 2%YoY เท่ากับว่าครึ่งปีหลังอาจขยายตัวเพียง 1% มองเป็นแรงกดดันต่อการลงทุนหุ้นไทยจากนี้ ซึ่งทั้งปีนี้ สภาพัฒน์คาดการณ์การบริโภคขยายตัวเพียง 2.1%YoY ลดลงจากปีก่อนที่ขยายตัวได้มากถึง 4.4%YoY

สำหรับต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ เมื่อคืนประกาศดัชนีภาคอสังหาที่ระดับ 32 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 34 แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนไม่ได้มองกังวลกับเศรษฐกิจสหรัฐฯเท่าใดนักเพราะยังเห็นการปรับขึ้นของ US Bond Yield อาจสะท้อนถึงความกังวลด้านเงินเฟ้อ

และเริ่มเห็นเงินบาทขยับอ่อนค่าขึ้นมาล่าสุดทดสอบระดับ 32.5 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับการขายของนักลงทุนต่างชาติโดยวานนี้ขายสุทธิ 644 ล้านบาทพร้อมกับการปรับฐานของ SET ราว 1.36% คล้ายคลึงกับที่ประเมินไว้ว่าระดับ Valuation หุ้นไทยเริ่มแพงผสานกับ Price In ข่าวดีต่างๆ ไปมากแล้ว อาทิ เจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศรวมไปถึงการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย และเมื่อมองไปยังข้างหน้าเผชิญแรงกดดันจากการส่งออกและการเมืองไทยที่จะเริ่มกลับมาเป็นประเด็น

ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 1.39 ล้านและ 1.29 (ตามลำดับ)

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1230 – 1250 อาจเห็นการฟื้นตัวบ้างจากการปรับลงหนักวานนี้ อย่างไรก็ตาม Upside ยังจำกัดเช่นเดิม เพราะยังขาดปัจจัยหนุนอย่างมีนัยยะ

ดังนั้นเชิงกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนระยะสั้นจังหวะปรับขึ้นยังมองเป็นโอกาสลดพอร์ตการลงทุน โดยแนะนักลงทุนอาจมองหาหุ้นปันผลระหว่างรอดูทิศทางการเมือง เชื่อว่าหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลจะมีการเคลื่อนไหว Outperform Top Pick (SCB KBANK) กลุ่ม Defensive (BDMS)