ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ขยับขึ้นเล็กน้อย ตลาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ขยับขึ้นเล็กน้อย ตลาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ S& P 500 ฟิวเจอร์ ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในเย็นวันอาทิตย์ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นต่อจากตลาดปรับตัวสูงขึ้นสองสัปดาห์ติดต่อกัน

ซีเอ็นบีซี รายงานตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในเย็นวันอาทิตย์ ( 17 ส.ค.68) หลังจากความหวังเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงผลักดันให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ทำกำไรได้ในตลาดวอลล์สตรีท

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.09% ด้าน S&P 500 ฟิวเจอร์และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.11% และ 0.18% ตามลำดับ

ความเคลื่อนไหวในคืนวันอาทิตย์เกิดขึ้นหลังจากดัชนีหลักทั้งสามปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่ดัชนี S&P 500

และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.9% และ 0.8% ตามลำดับ 

.

นอกจากนี้ยังเป็นสัปดาห์ที่สี่ที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากห้าสัปดาห์หลังสุด

กลุ่มหุ้นขนาดเล็กทำผลงานได้ดีกว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ตลาดอาจวิตกเกินไปเกี่ยวกับผลกระทบของกำแพงภาษี

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์การลงทุนจาก Baird Private Wealth Management ชี้ว่าดัชนี S&P 500 Equal Weight Consumer Discretionary ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความกลัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจกำลังได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรอาจเกินจริง

“ด้วยสัญญาณของตลาดที่ค่อนข้างสดใส... จึงทำให้เกิดคำถามว่าความเชื่อทั่วไปเกี่ยวกับผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงและความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน (stagflation) นั้น ผิดพลาดไปหรือไม่” เขาเขียนไว้ในบันทึกประจำวันศุกร์

สัปดาห์นี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงเป็นจุดสนใจ เนื่องจากสมาชิกธนาคารกลางเดินทางไปยังเมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง เพื่อเข้าร่วมการประชุมสัมมนานโยบายเศรษฐกิจประจำปี นักลงทุนจะติดตามเหตุการณ์นี้เพื่อประเมินเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดอกเบี้ยเฟดสะท้อนความเป็นไปได้เกือบ 85% ที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนกันยายน ตามเครื่องมือติดตาทเฟด FedWatch ของ CME

นอกเหนือจากนโยบายเศรษฐกิจแล้ว นักลงทุนจะติดตามรายงานผลประกอบการที่จะออกในช่วงสัปดาห์นี้ขณะฤดูรายงานผลประกอบการกำลังจะสิ้นสุดลง 

ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ อาทิ Home Depot, Lowe’s, Walmart และ Target

ล้วนเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำหนดประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้

จากข้อมูลของ FactSet พบว่ากว่า 92% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการในไตรมาสสองไปแล้ว เกือบ 82% ทำได้ดีกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้