หุ้นไทยวันนี้ 8 ส.ค.68 จับตาประชุม กนง. สัปดาห์หน้าอาจลดดอกเบี้ย

หุ้นไทยวันนี้ 8 ส.ค.68 บล.พาย เผย สัปดาห์หน้ารอดูประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินอาจเห็นการลดดอกเบี้ย ด้วยเงินเฟ้อที่ต่ำผสานกับเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ และเงินบาทแข็งค่า วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,270 จุด
KEY
POINTS
- บล.พาย คาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า อาจมีการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย
- ปัจจัยที่อาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ย ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ, การขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่า
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 31 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- สำหรับวันนี้ (8 ส.ค.68) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ไว้ที่ 1,250-1,270 จุด
- นักลงทุนอาจเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Theme ดอกเบี้ยปรับลง เช่น MTC, SAWAD, และ TIDLOR
หุ้นไทยวันนี้ 8 ส.ค.68 บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 224 จุด -0.5% นักลงทุนกลับมาขายทำกำไรหลังดัชนีปรับขึ้นแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ พร้อมกับแรงกดดันหุ้น ELI Lilly ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.69% หลังจากทำเนียบขาวระบุว่าผู้นำรัสเซีย และสหรัฐ เตรียมจะพบปะกัน
นอกจากนี้สหรัฐ ประกาศผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.26 แสนราย เร่งขึ้นเล็กน้อยจากคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus ที่ 2.21 แสนราย และเร่งขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.19 แสนราย โดยรวมยังไม่เห็นผลกระทบอย่างมีนัยต่อสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือ Dollar เพราะทั้งสองสินทรัพย์ค่อนข้างนิ่งๆ แต่แนวโน้มใหญ่ยังปรับลง สะท้อนความมั่นใจที่น้อยลงของสหรัฐ จากความคิดของนักลงทุน
โดย Focus นักลงทุนในช่วงนี้ไปให้น้ำหนักกับผลประกอบการที่ทยอยประกาศ อย่างหุ้น Eli Lilly ปรับลง 14% หลังมีรายงานว่า ยาลดความอ้วนของบริษัทให้ประสิทธิภาพที่ต่ำกว่านักลงทุนคาดไว้
ด้านปัจจัยในประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนก.ค. ที่ระดับ 51.7 ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 6 ต่ำสุดในรอบ 31 เดือน สาเหตุหลักที่ผู้บริโภคกังวลมาจากเสถียรภาพของรัฐบาล การเมืองของไทย รวมไปถึงสงครามการค้าจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ตลอดจนสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรวมแล้วทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มดูสอดคล้องกับตลาดหุ้นไทยที่วานนี้ จากปรับขึ้นไปบวกได้มากถึง 1.29% พบว่าปรับลงมาปิดบวกเพียง 0.05% และนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิเล็กน้อย 297 ล้านบาท จากช่วงก่อนหน้าที่มักเห็นการซื้อสุทธิหลักพันล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตามยังเห็นการเปิด Long ในตลาด TFEX ราว 7.6 พันล้านบาท (Sentiment เชิงบวก) แต่ทั้งนี้ด้วยระดับ PE ตลาดหุ้นไทยที่ปรับขึ้นมา 14 เท่า เริ่มไม่ค่อยถูกเท่าใดนัก (ไม่ควรประมาทกับการลงทุน)
สำหรับ คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม โดยสัปดาห์หน้ารอดูประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินอาจเห็นการลดดอกเบี้ย ด้วยเงินเฟ้อที่ต่ำผสานกับเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ และเงินบาทแข็งค่า
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,270 จุด การเคลื่อนไหวน่าจะเริ่มจำกัดจากระดับ Valuation ที่ตึงตัวประกอบกับ Price In ปัจจัยหนุนต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว ผสานกับทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังอาจขยายตัวต่ำกว่า ครึ่งปีแรก สร้างแรงกดดันต่อการลงทุน ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเลือก Take Profit บางส่วนสำหรับนักลงทุนที่ซื้อ จากข้างล่างขึ้นมา (ปรับขึ้นมาร่วม 19%)
แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระยะสั้นเน้นเทรดดิ้ง อาจเลือกเก็งกำไรในหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย และเป็นหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ CPALL KTC CPF KTB BBL MINT BJC รวมไปถึง Theme ดอกเบี้ยปรับลง อาทิ MTC SAWAD TIDLOR นิคม AMATA WHA
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






