8 หุ้นโรงไฟฟ้ากอดคอบวก GPSC-BGRIM พุ่งนำ 8.89% อานิสงส์บาทแข็ง-ต้นทุนการเงินลดลง

หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับบวกยกแผง นำโดย หุ้น GPSC บวก 8.89% ตามมาด้วย หุ้น BGRIM บวก 5.08% และ หุ้น GULF บวก 3.19% นักวิเคราะห์เผย อานิสงส์บาทแข็งและต้นทุนการเงินลดลง
KEY
POINTS
- หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า 8 บริษัทปรับตัวขึ้นยกแผง นำโดย GPSC ที่ราคาพุ่งขึ้น 8.89% และ BGRIM ที่บวก 5.08%
- ปัจจัยหนุนหลักมาจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่มีหนี้สินในสกุลเงินต่างประเทศ ทำให้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนดีขึ้น
- ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหรือดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนกำไรของกลุ่มโรงไฟฟ้าให้ดีขึ้น
- GPSC ประกาศงบไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นอีกแรงหนุนราคาหุ้น
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 7 ส.ค.2568 เวลา 10.00 น. หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับบวกยกแผง นำโดย
หุ้น GPSC บวก 8.89% เพิ่มขึ้น 3.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 36.75 บาท
หุ้น BGRIM บวก 5.08% เพิ่มขึ้น 0.60 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 12.40 บาท
หุ้น GULF บวก 3.19% เพิ่มขึ้น 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 48.50 บาท
หุ้น RATCH บวก 2.86% เพิ่มขึ้น 0.75 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 27.00 บาท
หุ้น BCPG บวก 2.14% เพิ่มขึ้น 0.15 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 7.15 บาท
หุ้น EGCO บวก 0.89% เพิ่มขึ้น 1.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 113.00 บาท
หุ้น EA บวก 0.68% เพิ่มขึ้น 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.94 บาท
หุ้น GUNKUL บวก 0.55% เพิ่มขึ้น 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.83 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เช้านี้กลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GPSC GULF และ BGRIM ซึ่งการปรับตัวขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงหนุนเงินบาทแข็งค่า ซึ่งกำไรส่วนใหญ่มาจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่มีหนี้ต่างประเทศค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหรือดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนกำไรให้ดีขึ้น
"งบการเงินที่ดีมาจากปัจจัยภาพใหญ่ อย่างค่าเงินและดอกเบี้ย แม้ว่าค่า Ft จะปรับลดลงและถูกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วที่ 3.94 บาท สำหรับ 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แต่กำไรจากเงินบาทที่แข็งค่าเป็นสิ่งคาดการณ์ได้ยากเนื่องจากการปิดความเสี่ยงค่าเงิน อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่แข็งค่ายิ่งเป็นผลดีต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าโดยรวม"
นอกจากนี้ GPSC ประกาศงบไตรมาส 2/68 โดดเด่นรายงานกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท ในไตรมาส 2/68 ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงถึง 77% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ GULFเป็นหุ้นที่ได้รับความชื่นชอบเป็นพิเศษในกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากมี "Growth Story" ที่ชัดเจนมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ มากกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่ง ทำให้มีโอกาสในการเติบโตในระยะยาว
ส่วน BGRIM ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้ได้รับอานิสงส์จากปัจจัยที่คล้ายคลึงกันกับ GPSC โดยเฉพาะเรื่องของค่า Ft ที่ 3.94 บาท ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี และผลจากเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลงเช่นกัน
"สำหรับผู้ที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะนำให้ "Run Profit" เนื่องจากหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาแล้ว แต่ในส่วนของนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อแนะนำให้ "รอจังหวะย่อ" หรือรอการประชุมนักวิเคราะห์ หรือรอจังหวะที่เงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งก่อนตัดสินใจเข้าซื้อ หากจะเข้าซื้อในกลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ GULF เป็นอันดับแรก"







