หุ้น Apple พุ่งขึ้น 5% ดันดัชนี S&P 500 ปิดแดนบวก NASDAQ พุ่งขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดบวก Nasdaq พุ่งขึ้น ในวันพุธ จากราคาหุ้น Apple พุ่งขึ้นแรงหนุนตลาด หลังบริษัทประกาศลงทุนผลิตไอโฟนเพิ่มในสหรัฐอีก 1 แสนล้านดอลลาร์
ซีเอ็นบีซี รายงาน หุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ (6 ส.ค.68) เนื่องจากราคาหุ้น Apple พุ่งขึ้นแรง ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทชุดล่าสุด ปิดตลาดดัชนี S&P 500
เพิ่มขึ้น 0.73% ปิดที่ 6,345.06 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite พุ่งขึ้น 1.21% ปิดที่ 21,169.42 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 81.38 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 44,193.12 จุด
ราคาหุ้น Apple ปรับตัวสูงขึ้น 5.1% หลังจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันกับซีเอ็นบีซี ว่าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ iPhone จะเพิ่มการลงทุนในส่วนของการผลิตภายในประเทศอีก 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้การลงทุนในสหรัฐ ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในอีกสี่ปีข้างหน้า
การเคลื่อนไหวของดัชนีเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดปรับตัวลดลงในวันอังคาร โดยดัชนี S&P 500 ติดลบ 5 ในช่วง 6 วันก่อนหน้า และดัชนีดาวโจนส์ที่ติดลบ 6 วันใน 7 วัน
ตลาดเริ่มคลายกังวลผลกระทบของภาษีทรัมป์
“โดยรวมแล้ว เป็นช่วงการปรับตัวที่ยังคงดำเนินต่อไปจากความผันผวนที่ค่อนข้างสูงที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากรายงานการจ้างงานน่าผิดหวัง และ ธนาคารกลางสหรัฐ ก็ไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย” ไมเคิล กรีน ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอและหัวหน้านักกลยุทธ์ของ Simplify Asset Management กล่าว “ตอนนี้เราอยู่ในช่วงการรอคอย”
นักลงทุนกำลังเผชิญกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกรีนกล่าวว่า “ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิด” เมื่อวันพุธ รัฐบาลทรัมป์ประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีสินค้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25% ส่งผลให้อัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐ สำหรับสินค้าจากคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ อยู่ที่ 50%
“ผู้คนเริ่มตระหนักว่าภาษีมีผลกระทบต่อสหรัฐ ในฐานะผู้นำเข้าซึ่งต่างจากหากสหรัฐ เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ และสถานการณ์ก็เริ่มสงบลง” กรีน กล่าวกับซีเอ็นบีซี “ตอนนี้เราอยู่ในสภาวะที่รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ฤดูกาลผลประกอบการยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทต่างๆ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 ประมาณ 81% ที่รายงานผลประกอบการจนถึงปัจจุบัน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลของ FactSet
ในบรรดาบริษัทที่ทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ McDonald’s ปิดตลาดสูงขึ้นเกือบ 3% หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาสที่สอง ของเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งนี้สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทั้งในด้านรายได้ และกำไร ยอดขายจากสาขาเดิมเติบโตเร็วที่สุดในรอบเกือบสองปี หุ้น Arista Networks ก็พุ่งขึ้น 17% จากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในทางกลับกัน ราคาหุ้นของ Snap ร่วงลงแรง 17% หลังจากรายได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ขณะที่ Advanced Micro Devices
ร่วงลงมากกว่า 6% หลังจากรายงานกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
กรีน กังวลว่านักลงทุนไม่ได้ให้รางวัลแก่หุ้นที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดเหมือนในอดีต ซึ่งสะท้อนว่าความคาดหวังสูงของตลาดก่อนเข้าฤดูกาลประกาศงบ “มีคำถามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับคุณภาพของกำไรที่เกิดขึ้น” เขากล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







