'หุ้นเวียดนาม' โตแรง เสี่ยง 'ปรับฐาน’ หลังสินเชื่อมาร์จินพุ่งสูง

'หุ้นเวียดนาม' โตแรง  เสี่ยง 'ปรับฐาน’ หลังสินเชื่อมาร์จินพุ่งสูง

’หุ้นเวียดนาม' โตแรง 22% คาดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง รายย่อยหวังแตะ 1,800 จุด นักวิเคราะห์เตือนเสี่ยง 'ปรับฐาน’ หลังสินเชื่อมาร์จินพุ่งสูง ฉุดตลาดทรุดแรงซ้ำรอยอดีต

บลูมเบิร์กรายงานว่า ความหวังของนักลงทุนรายย่อยในเวียดนามกลับมาอีกครั้ง เมื่อดัชนี VN Index ของเวียดนามที่พุ่งขึ้นถึง 22% ในปีนี้ จนเกิดวลี "Make VN Index 1,800" และ "MIGA" (Make Index Great Again) ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ว่าดัชนีจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางคนตั้งเป้าให้ตลาดพุ่งทะยานไปถึง 1,800 จุด

'หุ้นเวียดนาม' โตแรง  เสี่ยง 'ปรับฐาน’ หลังสินเชื่อมาร์จินพุ่งสูง

วานนี้(5 ส.ค.68) ดัชนี VN Index  ปิดตลาดสูงขึ้น 1.2% ที่ 1,547.15 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายเดือนของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ซิตี้ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดมูลค่าการซื้อขายรายวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.74 พันล้านดอลลาร์  เมื่อวันที่ 29 ก.ค.68 และวันนี้(6 ส.ค.68) เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,558.76 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังเปิดตลาด

ตลาดหุ้นเวียดนามพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามแซงหน้าดัชนีสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาคและทำสถิติ “สูงสุดเป็นประวัติการณ์” เมื่อเดือนที่แล้ว 

JPMorgan Chase & Co. คาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามจาก 46% เหลือ 20% ในเดือนที่แล้ว หลังจากนั้น ธนาคารก็ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเวียดนามเป็น "overweight" และเพิ่มเป้าหมายสิ้นปีสำหรับดัชนี VN Index เป็น 1,600 จุด

คาดเงินทุนไหลเข้าเวียดนามต่อเนื่อง

นอกจากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดแล้ว โดยกองทุนต่างชาติก็เริ่มกลับเข้ามาลงทุนเช่นกัน โดยข้อมูลจากบลูมเบิร์กระบุว่าในเดือนก.ค. มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิถึง 298 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเดือนที่ 2 ที่มีเงินทุนไหลเข้าในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา  

มาร์โก มาร์ติเนลลี จาก Turicum Investment Management คาดการณ์ว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยมาจากหลายอย่าง

  • ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนมองหาโอกาสในตลาดอื่น
  • ตลาดหุ้นสหรัฐมีมูลค่าสูงมากแล้ว ทำให้นักลงทุนมองหาตลาดทางเลือกที่ยังมีโอกาสเติบโต
  • มีความหวังว่าในเดือนก.ย.นี้ FTSE Russell ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีระดับโลก จะปรับสถานะตลาดหุ้นเวียดนามจาก "ตลาดชายขอบ" (Frontier Market) ขึ้นเป็น "ตลาดเกิดใหม่ระดับรอง" (Secondary Emerging Market)

ปัจจัยเหล่านี้ เมื่อรวมกับความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นของนักลงทุนในประเทศ จะเป็น "ปัจจัยที่ปูทางไปสู่ผลประกอบการของตลาดที่แข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"

ตลาดหุ้นเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว

ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนาม มีบัญชีซื้อขายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 970,000 บัญชี ทำให้ยอดรวมทะลุ 10 ล้านบัญชีแล้ว ซึ่งเกือบจะบรรลุเป้าหมายของทางการที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านบัญชีภายในปี 2573  โดยการเติบโตนี้มีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำ ทำให้เงินฝากไม่ให้ผลตอบแทนที่ดีนัก

นอกจากนี้ นักลงทุนรายย่อยมีบทบาทสำคัญในตลาดหุ้นเวียดนามอย่างมาก โดยคิดเป็นสัดส่วน กว่า 80% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งมากกว่าในไทย และอินโดนีเซียถึงสองเท่า การเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากนี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยกลายเป็นกำลังหลักที่สำคัญของตลาด ทั้งตัวขับเคลื่อนตลาดเมื่อกองทุนต่างชาติถอนตัว และสาเหตุของความผันผวนเมื่อบรรยากาศการลงทุนเปลี่ยนไป

‘ความเสี่ยง’ ตลาดหุ้นเวียดนาม

หวู มินห์ ดึ๊ก รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Vietcap Securities คาดการณ์ว่า ดัชนี VN Index จะแตะระดับ 1,800 จุด ในปีหน้า และจะพุ่งทะลุ 2,000 จุด ในปี 2570

แม้ว่าภาคค้าปลีกของเวียดนามจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีความกังวลว่าอาจจะเกิดการ “ปรับฐาน” หรือราคาหุ้นจะตกลงได้ในอนาคต

หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ “สินเชื่อมาร์จินพุ่งสูง” โดยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา สินเชื่อมาร์จิน (Margin Loan) หรือการกู้เงินมาลงทุนในหุ้น พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงอย่างมากที่ตลาดจะทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง

ครั้งล่าสุดที่สินเชื่อมาร์จินพุ่งสูงสุดในเดือนม.ค.2565 ตลาดหุ้นเคยร่วงลงมากกว่า 20% ภายในเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งเป็นบทเรียนที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

 

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์