หุ้นโรงพยาบาลบวกยกแผง BH พุ่งนำกลุ่ม 5.04% หลังควบคุมต้นทุนได้ดี รายได้ปีนี้ฟื้นตัว

หุ้นโรงพยาบาลบวกยกแผง BH พุ่งนำกลุ่ม 5.04% หลังควบคุมต้นทุนได้ดี รายได้ปีนี้ฟื้นตัว

หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลบวกยกแผง นำโดย หุ้น BH บวก 5.04% เพิ่มขึ้น 9.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 187.50 บาท  และ หุ้น BDMS บวก 3.77% เพิ่มขึ้น 0.80 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 22.00 บาท โบรกเผย BH ควบคุมต้นทุนได้ดี คาดรายได้ปีนี้ฟื้นตัว เติบโต 3-5%

KEY

POINTS

  • หุ้น BH หรือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ปรับตัวขึ้น 5.04% ในการซื้อขายภาคเช้า ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นนำหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่บวกขึ้นยกแผง
  • นักวิเคราะห์ชี้ว่าราคาหุ้น BH ปรับขึ้นเนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 2/68 สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้อัตรากำไรมีแนวโน้มดีขึ้น
  • ผู้บริหารคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 3-5% จากการฟื้นตัวของรายได้ โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ป่วยตะวันออกกลาง
  • แนวโน้มผู้ป่วยในไตรมาส 3/68 คาดว่าจะดีขึ้น หลังจากปัญหาที่ทำให้ผู้ป่วยตะวันออกกลางชะลอการเดินทางได้คลี่คลายลง
  • ความกังวลเรื่องการเสียส่วนแบ่งการตลาดให้คู่แข่งลดลง เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ BH ถูกเลือกเป็นหุ้นเด่น (Top Pick)

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 5 ส.ค.2568 เวลา 10.05 น.หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลบวกยกแผง นำโดย หุ้น BH หรือ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) บวก 5.04% เพิ่มขึ้น 9.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 187.50 บาท  และ หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) บวก 3.77% เพิ่มขึ้น 0.80 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 22.00 บาท 

หุ้นโรงพยาบาลบวกยกแผง BH พุ่งนำกลุ่ม 5.04% หลังควบคุมต้นทุนได้ดี รายได้ปีนี้ฟื้นตัว

นนทพัฒน์ สหกิจภิญโญ นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)  ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า  วันนี้ราคาหุ้น BH ปรับตัวขึ้นมา หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 2/68 สามารถควบคุมต้นทุนได้ค่อนข้างดี และมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารายได้จะยังไม่เติบโต ขณะที่ผู้บริหารคาดว่า รายได้ในปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโต 3-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแนวโน้มที่ดีขึ้นใน 2 ด้าน จากอัตรากำไร หรือ Margin มีแนวโน้มดีขึ้นจากการควบคุมต้นทุน และด้านรายได้ มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ป่วยตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 1/68 มีช่วงเดือนรอมฎอน และไตรมาส 2/68 จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ลูกค้าจากตะวันออกกลางบางส่วนยังไม่พร้อมที่จะเดินทางมาพักรักษาตัวที่ประเทศไทย แต่เมื่อปัญหาได้เริ่มคลี่คลายลง ทำให้แนวโน้มในไตรมาส 3/68 จึงดูดีขึ้น

"ในไตรมาส 2/68 ปริมาณผู้ป่วยยังคงเติบโต และคาดว่าในไตรมาส 3/68 จะยังคงเติบโตต่อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาการเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับคู่แข่ง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลางนั้นไม่น่าจะมีความกังวลที่เคยกดดันราคาหุ้นก่อนหน้านี้จึงหายไป"

อย่างไรก็ตาม แม้จะปรับตัวขึ้นมา แต่ราคาหุ้นยังคงซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ทำให้มองว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจอย่างมากในช่วงนี้ 

ส่วนหุ้น BDMS ก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้เช่นกัน ซึ่งอาจได้รับ sentiment เชิงบวกจากการที่หุ้น BH  และเกิดการปรับขึ้นของมูลค่าหุ้นในกลุ่ม ซึ่งมองว่า BDMS ยังคงน่าสนใจและอยู่ในระดับที่ลงทุนได้

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบระหว่าง BH และ BDMS มีความชื่นชอบ BH มากกว่าในขณะนี้ เนื่องจาก BDMS มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยไทยมากกว่า ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ดี ก็อาจเติบโตได้ไม่มากนัก ถึงแม้ว่าในระยะสั้น กำไรของ BDMS จะยังคงเติบโตได้ดีกว่า BH แต่จากมุมมองของนักลงทุนที่มักมองไปข้างหน้า และความกังวลในอดีตของ BH ที่คลี่คลายลง ทำให้ BH ดูโดดเด่นกว่า

ดังนั้น BH จึงถูกเลือกเป็นหุ้น Top Pick โดยมีแนวโน้มที่จะเริ่มฟื้นตัวได้ และจากการที่ราคาปรับตัวลงไปค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ จึงน่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนระยะสั้น ขณะที่ หุ้น PR9 มีความน่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่เพิ่งเจาะตลาดได้ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่มอุตสาหกรรม ถึงแม้ในระยะสั้นอาจจะยังไม่โดดเด่นมากนักเพราะราคาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่หากถือในระยะยาวและเน้นการเติบโตที่ดี PR9 ก็เป็นจังหวะที่น่าสะสม

สำหรับภาพรวมของกลุ่มรงพยาบาลโดยรวมแล้ว ธุรกิจโรงพยาบาลถือเป็นธุรกิจที่มีรายได้ค่อนข้างคาดเดาได้ง่ายและมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากผู้ป่วยไทยบ้าง แต่กลุ่มโรงพยาบาลจะไม่ผันผวนมากนักเมื่อเทียบกับบางภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น อัตราภาษี เป็นต้น