หุ้น BH พุ่ง 7.10% กำไรไตรมาส 2/68 สูงกว่าคาด จ่ายปันผลครึ่งแรกที่ 2 บาท

หุ้น BH ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.10% เพิ่ม 11.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 173.50 บาท โบรกเผย กำไรไตรมาส 2/68 สูงกว่าคาด จ่ายปันผลครึ่งแรกที่ 2 บาท
KEY
POINTS
- หุ้น BH ปรับตัวขึ้น 7.10% หรือ 11.50 บาท มาอยู่ที่ 173.50 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 31 ก.ค. 2568
- บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1,858 ล้านบาท สูงกว่าที่นักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ 13% และ 9% ตามลำดับ สวนทางปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วง low season
- ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.3% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 ส.ค. 2568
- ปัจจัยหนุนกำไรมาจากอัตรากำไรขั้นต้น (GM) ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 52.3% และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส
- บล.บัวหลวง ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จากเดิม "ขาย" และคาดว่าจะมีการปรับประมาณการกำไรขึ้น โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ในช่วง 180-200 บาท
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 31 ก.ค.2568 เวลา 10.30 น. หุ้น BH หรือ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.10% เพิ่ม 11.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 173.50 บาท
ปัญจพล แท่นศรีเจริญ, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า BH รายงานกำไรสุทธิที่ 1,858 ล้านบาท ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ สวนทางปัจจัยฤดูกาลที่ปกติแล้วจะเป็น low season ในไตรมาส 2/68 กำไรสูงกว่าที่เราคาด 13% จาก GM ที่ทำ ATH และ SG&A ที่ต่ำมาก และสูงกว่าตลาดคาด 9% จาก SG&A ที่ต่ำกว่าตลาดคาดมาก BH ประกาศจ่ายปันผล 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็น div vield 1.3% XD 14 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ รายได้จากการรักษาพยาบาลอยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท ลดลง 49% YoY และ 2% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทเลยใหมุมมองไว้ว่า รายได้จะลดลง 3-5% ขณะที่รายโต้ผู้ป่วยชาวต่างปาติอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท ลดลง 6.6% YoY และ 2% QoQ จากแผ่นดินไหวที่ทำให้ทำให้รู้ป่วยชาวพม่าที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 5-7% หายไป รายได้ผู้ป่วยชาวไทยอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ลดลง 1.6%QoQ
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 52.3% ทำสถิติสูงสุด เพิ่มขึ้น 0.2% YoY และ 2.0%QoQ โดยเราวิเคราะห์ว่ามาจากสัดส่วน Middle East ที่สูงขึ้น เพราะ revenue mixed ในไตรมาสนี้ ผู้ป่วยชาวต่างชาติต่ำกว่าไตรมาสอื่น ๆ อยู่ที่ 64.4%: 35.6% เทียบกับไตรมาส 2/67 ที่ 65.9%: 34.1% และไตรมาส 1/68 ที่ 64.5% :35.5% แต่ GM สามารถทำ ATH ได้ เนื่องจากผู้ป่วย Middliddle East จะมี intensity ที่สูงกว่าผู้ป่วยประเทศอื่น ๆ ทำให้มี GM สูงกว่าปกติ
นอกจากนี้ SG&A/sales อยู่ที่เพียง 16.0% ทรงตัว YoY แต่ลดลง 1.7%QoQ ถือว่าเงินไตรมาลที่มี SG&A expense ต่ำที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส
ทั้งนี้ แนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 3/68 คาดจะลดลงเล็กน้อย ถึงทรงตัว YoY แต่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งQoQ หลังจาก pend-Up demand หลังช่วงรามฏอน เรามองว่า BH ทํา GM และ lean ได้ค่อนข้างดีถึงแม้จะเป็นช่วง low season ของผู้ป่วยชาวต่างชาติ ดังนั้นเรามองว่าหากเข้า high season แล้วจะยิ่งเห็น economy-of-scale ตั้งแต่ไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ เรามองว่ากำไรที่ดีกว่าที่เราและตลาดคาดมาก จาก GM และ SG&A รวมไปถึงการมติบโตสวนกับภาพที่จะเป็น low season ในไตรมาล 2 ทำให้เรามองว่า BH มี operating leverage โดยรายได้คาดที่จะเติบโตในไตรมาส 3/68 จะยิ่งทำให้ BH มี Econnomies-of-scale มากไปกว่าเดิม ดังนั้นเรามองว่า BH ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปไปแล้ว และเราคาดจะเห็นการปรับประมาณกำไรของเราขึ้นราว 8-10% ในปีนี้ถึงปีหน้า ทำให้เราคาดจะเห็นการปรับประมาณการทำไรของตลาดขึ้นราว 3-5% จากกำไรที่ออกมาดีกว่าที่เราและตลาดคาด รวมถึงจะมีการปรับประมาณการกำไรขึ้น เราปรับคำแนะนำเป็นซื้อจากขายโดยเรามองว่าราคาเป้าหมายไว้ในช่วง 180-200 บาท







