หุ้น BCP ร่วง 2.24% โบรกคาด Q2/68 หลายธุรกิจอ่อนแอ แม้กลุ่มโรงกลั่นฟื้นตัว

หุ้น BCP ร่วง 2.24% ลดลง 0.75 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 32.75 บาท โบรกคาด ผลงานไตรมาส 2/68 หลายธุรกิจอ่อนแอ แม้กลุ่มโรงกลั่นฟื้นตัว อาจกลับมาพลิกขาดทุนอีกครั้ง
KEY
POINTS
- หุ้น BCP ปรับตัวลดลง 2.24% ในการซื้อขายภาคเช้า มาอยู่ที่ระดับราคา 32.75 บาท
- บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 2.4 พันล้านบาท
- ปัจจัยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจการตลาดที่ปริมาณขายลดลง และธุรกิจไฟฟ้าที่คาดว่าจะขาดทุน
- ธุรกิจโรงกลั่นแม้จะมีค่าการกลั่น (GRM) ที่ดีขึ้น แต่กำลังการกลั่นโดยรวมลดลง เนื่องจากโรงกลั่นศรีราชาลดกำลังการผลิตเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
- บริษัทมีรายการพิเศษจำนวนมากในไตรมาสนี้ เช่น การตั้งค่าเผื่อหนี้ EDL และการรับรู้ขาดทุนจากเหตุไฟไหม้โครงการโซลาร์ ซึ่งกดดันผลประกอบการ
- นักวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/68 จากธุรกิจโรงกลั่นและไม่มีรายการพิเศษจำนวนมาก
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 25 ก.ค.2568 เวลา 10.05 น. หุ้น BCP หรือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วง 2.24% ลดลง 0.75 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 32.75 บาท
นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของ BCP คาดพลิกขาดทุน 2.4 พันล้านบาท หลายธุรกิจอ่อนแอ ผสมกับรายการพิเศษจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่น กำลังการกลั่นรวมคาดที่ 241.6 พันบาร์เรล/วัน จาก 268.4 พันบาร์เรล/ วัน โดยโรงกลั่นพระโขนงใช้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 102% ขณะที่โรงกลั่นศรีราชาใช้กำลังการผลิตลดลงเหลือ 69% จาก 85% ในไตรมาส 1/68 เนื่องจากมีการชะลอการกลั่นเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยกลั่นเพื่อให้สามารถผลิตน้ำมันดีเซลได้เพิ่มขึ้น คาดจะเห็นผลบวกในไตรมาส 3/68 นี้ โดยไตรมาสนี้ได้ผลบวกจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะแก๊สโซลีน และน้ำมันกำมะถันต่ำที่ส่วนต่างราคาเพิ่ม 3.7 และ 3.6 เหรียญ/ บาร์เรล ส่งผลให้ GRM รวมอยู่ที่ 4.8 เหรียญ/บาร์เรล พระโขนงคาดที่ 5.8 เหรียญ ส่วนศรีราชาคาดที่ 3.7 เหรียญ/ บาร์เรล
ขณะที่ธุรกิจการตลาด ปริมาณขายน้ำมันสำเร็จรูปคาดลดลง -3% q-q ที่ 3,393 ล้านลิตร จากการขายให้กลุ่มอุตสาหกรรมหดตัวจากการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น แต่การขายกลุ่มค้าปลีกทรงตัว ค่าการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 0.88 บาท/ ลิตร จาก 0.83 บาท/ ลิตร
ส่วนธุรกิจไฟฟ้า คาดไตรมาสนี้พลิกขาดทุนแม้ปริมาณขายไฟ +12% q-q แต่ส่วนต่างราคาขายไฟที่ลดลงทำให้กระทบต่อกำไรให้ลดลง โดยการดำเนินงานในไทยลดลง q-q ตามปัจจัยฤดูกาลจากค่าความเข้มแสงลดลงจากฝนตกมาก สปป.ลาวดีขึ้นตามปริมาณน้ำมากขึ้น แต่หากส่วนแบ่งกำไรจากฟิลิปปินส์ลดลงจากปัจจัยนอกฤดูกาล ประกอบกับมีรายการพิเศษเกิดขึ้นจากการย้ายที่ตั้งโครงการลมในฟิลิปปินส์, การตั้งค่าเผื่อลูกหนี้การไฟฟ้าลาว (EDL) 100%, รับรู้ขาดทุนจากไฟไหม้โครงการ solar ในไทย
“ระยะสั้นราคาหุ้นอาจโดนกดดันจากการดำเนินงานที่พลิกมาขาดทุนจากรายการพิเศษจำนวนมากจนเกิด upside ให้ซื้ออีกครั้ง ซึ่ง คาดทุกอย่างจะดีขึ้นในไตรมาส 3/68 จากโรงกลั่นที่ฟื้นตัวตาม GRM อีกทั้งคาดไม่มีรายการพิเศษจำนวนมาก ขณะที่การดำเนินงานปีนี้ คาดกลับมาฟื้นตัวจาก Synergy รวมกันระหว่าง BCP และ BSRC กลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำ ซื้อเก็งกำไรตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และ GRM รวมถึงแนวโน้มงบที่ดี หรือจะรอซื้อหลังงบไตรมาส 2/68 ออกมาก็ได้ ”







