บล.บัวหลวง คาดกำไรบจ.Q2/68 ทรงตัว ทั้งปียังถูกปรับลดต่อเนื่อง

บล.บัวหลวง คาดกำไรบจ.Q2/68 ทรงตัว ทั้งปียังถูกปรับลดต่อเนื่อง

บล.บัวหลวง คาดกำไรบจ.ไตรมาส2/68 ทรงตัว ขณะที่ทั้งปีนี้ ยังปรับลดต่อเนื่อง กลุ่มอสังหา- โรงแรม-ขนส่ง เชื่อมโยงท่องเที่ยวในประเทศแนะคัดหุ้น “ไม้ตาย” ก่อนเริ่มฤดูงบ

นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐาน สายงานวิจัย บล.บัวหลวง  กล่าวว่า สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 2 คาดเพิ่มขึ้น 5% YoY แต่ลดลง 4% QoQ ราคาเนื้อสัตว์/รายได้จากบริการมือถือ–อินเทอร์เน็ตยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญแม้ยังโดนกดดันจากกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกทั้งพลังงานปิโตรฯแพคเกจจิ้งและอิเล็กทรอนิกส์หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักคาดออกมาเพิ่มขึ้น 2% YoY (แต่ทรงตัวQoQ) 

กลุ่มที่คาดโตดี YoY ได้แก่  

กลุ่มอาหาร (กลุ่มเนื้อสัตว์จากราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้น YoY ในขณะที่ ต้นทุนเลี้ยงสัตว์ลดลงทั้งข้าวโพด/กากถั่วเหลืองลดลง, กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังจากต้นทุนน้ำตาล/เศษแก้วลดลง)

กลุ่มสื่อสาร (รายได้จากบริการมือถือ–อินเทอร์เน็ตเติบโตต่อ Mobile ARPU คาดโตราว 3%) 

กลุ่มนิคมฯ (ราคาที่ดินคาดปรับขึ้นราว 15-20%)  

กลุ่มค้าปลีก (เฉพาะห้างสรรพสินค้าที่อิงรายได้ผู้เช่า-รายได้ผู้เช่าคาดโตราว 5-6%, กลุ่มค้าปลีกสินค้า IT–ยอดขายสินค้าจาก Apple คาดโตราว 10-15% สำหรับทั้งค้าปลีก/ค้าส่ง, กลุ่มค้าปลีกของใช้จำเป็น-ยอดขายสาขาเดิมหดตัวราว 2% ในขณะที่กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างหดตัวราว 8%, ภาพรวมทั้งกลุ่มหดตัวราว 4%)

กลุ่มที่คาดอ่อนแอ YoY ได้แก่ 

กลุ่มพลังงาน (กลุ่มพลังงานต้นน้ำ-ราคาพลังงานลดลง/กลุ่มโรงไฟฟ้า-ค่าไฟฟ้าลดลงราว 5% ที่ 3.98 บาทต่อหน่วยช่วง พ.ค.-ส.ค. ลดลงจาก 4.18 บาท/หน่วยปีก่อน ขณะที่ กลุ่มโรงกลั่นจะดีขึ้น-ค่าการกลั่น/อัตราการกลั่นที่สูงขึ้น)

กลุ่มแพคเกจจิ้ง (ราคาเยื่อกระดาษที่ลดลง แม้ปริมาณขายกระดาษบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจะเพิ่มขึ้น) 

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA เผชิญแรงกดดันจากภาษี GMT กลบผลบวกจากดีมานด์ AI/data center ที่ยังแข็งแรง ขณะที่ดีมานด์สินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ยังอ่อนแอ)

กลุ่มอสังหาฯ (ยอดจองเดือนมิ.ย. ยังอ่อนแอลดลง 11% YoY ; และลดลง 18% YoY ไตรมาส 2, มูลค่ายอดออกโครงการใหม่หดตัว 66% YoY มิ.ย.; ลดลง 47% YoY ไตรมาส 2)

กลุ่มปิโตรฯ (แม้ยังขาดทุนแต่เริ่มลดลง)

“ การปรับขึ้นคาดการณ์กำไรไตรมาส 2 สะท้อนว่าตลาดรับความเสี่ยงไปมากแล้ว เริ่มเห็นการปรับขึ้นคาดการณ์กำไรไตรมาส 2 ราว 5% ในช่วงมิ.ย.-กลางก.ค. โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นเช่นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (18%), กลุ่มสื่อสาร (12%), กลุ่มนิคมฯ (12%), กลุ่มปิโตรฯ (ไม่รวมรายการพิเศษขาดทุนลดลง) และกลุ่มที่ปรับลงเช่นกลุ่มยานยนต์ (-11%), กลุ่มขนส่ง (-9%), กลุ่มอสังหาฯ (-5%) ” 

นายพิริยพล กล่าวว่า คาดการณ์กำไรปี 2568  ของตลาดยังถูกปรับลงต่อเนื่อง แต่เริ่มเบาบาง กลุ่ม Global cyclical ที่เคยเป็นตัวฉุดเริ่มกลับมาปรับขึ้น แต่ยังคงเห็นการปรับลงสำหรับกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มโรงแรมและขนส่งที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในประเทศ

ขณะที่ Earnings revision breadth ชี้ downside ตลาดจำกัดแล้ว โดยสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ถูกปรับกำไรทั้งปีลง-เทียบปรับขึ้น (Earnings revision breadth) ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา “น้อยกว่า” ช่วงไตรมาส 1 มากกว่าครึ่ง ถึงแม้ยังเห็นการปรับกำไรทั้งปีของ SET ลงต่อ แต่ปรับลงน้อยเพียง 0.3% ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เทียบไตรมาส 1 ที่ปรับลงเฉลี่ยเดือนละ 1% 

ทั้งเริ่มเห็นกลุ่มที่เป็นตัวดึงลงมาตลอด เช่น กลุ่มปิโตรฯ, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มแพคเกจจิ้งกลับมาปรับกำไรขึ้น แต่ยังคงเห็นการปรับลงสำหรับกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มโรงแรมและขนส่งที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในประเทศ ย้ำมุมมองของเราก่อนหน้านี้ว่า downside ตลาดจำกัดแล้ว

หุ้นที่คาดจะเป็น “Silver bullet” ที่ 1) กำไรคาดเติบโต/ฟื้นตัวใน 2Q25 และ/หรือ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อใน 3Q25, 2) ไม่เห็นการปรับกำไรลงแรง 3 เดือนที่ผ่านมาและ 3) มีปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัวชัดเจน 

หากไทยโดนเก็บภาษีสหรัฐฯ ที่ 20% (Base case ของเรา) ประเมิน GDP growth ปี 2025 อยู่ที่ 1.4%, SET EPS อยู่ที่ 82, ยังคง SET target สิ้นปี 2568 อยู่ที่ 1,280จุด 

แนะ Key focus list ในไตรมาส 3 ได้แก่ CBG, COM7, CPN, CPALL, PTTGC, SCC, ADVANC, GULF, MINT, SCGP, DELTA