หุ้น KTC บวก 4.50% กำไรไตรมาส 2/68 โตตามคาด คุมค่าใช้จ่ายได้ดี-พื้นฐานแกร่ง

หุ้น KTC บวก 4.50% เพิ่มขึ้น 1.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 29.00 บาท นักวิเคราะห์เผย ไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิ 1,895 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.8% จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อและยอดใช้จ่าย พื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง จากรายได้ที่เติบโต, การควบคุมค่าใช้จ่าย และ NPL ที่ไม่เพิ่มขึ้น โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 31 บาท
KEY
POINTS
- หุ้น KTC ปรับตัวขึ้น 4.50% เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มาอยู่ที่ 29.00 บาท
- ไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิ 1,895 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.8% จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อและยอดใช้จ่าย
- สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายรวมลดลงเหลือประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท
- อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำที่ 1.83%
- นักวิเคราะห์มองพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง จากรายได้ที่เติบโต, การควบคุมค่าใช้จ่าย และ NPL ที่ไม่เพิ่มขึ้น โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 31 บาท
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 21 ก.ค.2568 เวลา 10.35 น. หุ้น KTC หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บวก 4.50% เพิ่มขึ้น 1.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 29.00 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า KTC ในไตรมาสที่ 2/68 มีกำไรสุทธิ 1,895 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 3.8% รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 6,810 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อและยอดค่าใช้จ่ายต่างๆ มีการขยายตัวได้ นอกจากนี้ KTC ยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมากนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ force sale โดยค่าใช้จ่ายรวมลดลงเหลือ 4,000 กว่าล้านบาท
สำหรับการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินนั้น KTC ทำได้ค่อนข้างดี อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ NPL อยู่ที่ 1.83% ซึ่งยังไม่ถึง 2% ด้วยปัจจัยที่รายได้เติบโต สินเชื่อขยายตัวได้เล็กน้อย ค่าใช้จ่ายถูกควบคุมได้ และ NPL ไม่เพิ่มขึ้น จึงทำให้พื้นฐานของ KTC ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี
"นักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้น KTC ไปในช่วง force sale ที่ราคาประมาณ 10 กว่าบาท ถือว่าได้ของดีไปในราคาที่ค่อนข้างถูก โดยราคาในขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 1 เท่าของมูลค่าทางบัญชี หรือ Book Value ปัจจุบัน KTC มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1.4- 1.6 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ด้วยการเติบโตของรายได้ การขยายตัวของสินเชื่อ และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี ทำให้มีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นจะกลับไปซื้อขายที่จุดเดิมหรือสูงขึ้นไปอีก ราคาเป้าหมายที่คือ 31 บาท ซึ่งคิดเป็น 1.8 เท่าของมูลค่าทางบัญชี มองว่าด้วยงบการเงินที่ดีเช่นนี้ KTC ยังคงสามารถซื้อขายเพื่อทำกำไรได้"





