ลุ้นภาษีทรัมป์ดัน 'หุ้นไทย' พุ่งต่อ กองทุน-โบรกเกอร์ เก็งไทยจบดีลที่ 18%

ลุ้นภาษีทรัมป์ดัน 'หุ้นไทย' พุ่งต่อ กองทุน-โบรกเกอร์ เก็งไทยจบดีลที่ 18%

หุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงกว่า 40 จุด “กองทุน-โบรกเกอร์” ชี้ตลาดลุ้นไทยจบดีลสหรัฐเหลือ 18% ลุ้นดัชนีทะลุ 1,200 จุด หากดีลจบตามคาด “โบรกเกอร์” เตือน หุ้นขึ้นแรง ควรขายทำกำไร หั่นถูกแรงขายทำกำไร

ความเคลื่อนไหว “ดัชนีหุ้นไทย” วานนี้ (17 ก.ค.2568) ปิดตลาดพุ่ง 40.48 จุด มาระดับ 1,198.11 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย (วอลุ่ม) 63,374.58 ล้านบาท โดยพบว่า “สถาบัน” (กองทุน) ซื้อสุทธิ 1,073.60 ล้านบาท “บัญชีบริษัทหลักทรัพย์” (บล.) ซื้อสุทธิ 875.24 ล้านบาท  ขณะที่ “ต่างชาติ” ขายสุทธิ 2,494.87 ล้านบาท และ “ในประเทศ” (รายย่อย) ขายสุทธิ 4,443.72 ล้านบาท

ลุ้นภาษีทรัมป์ดัน 'หุ้นไทย' พุ่งต่อ กองทุน-โบรกเกอร์ เก็งไทยจบดีลที่ 18%

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงจากต้นสัปดาห์ 40 จุด จากการผ่อนคลายความกังวลมากขึ้น โดยนักลงทุนเริ่มมีมุมมองบวกต่อหุ้นไทย หลังก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นไทยดิ่งเกินปัจจัยพื้นฐาน

โดยปัจจัยบวกมาจากภาษีทรัมป์ โดยหวังไทยสามารถเจรจาลดภาษีลงมาได้ ทำให้ตลาดเริ่มกลับมามีความหวัง บวกกับการเมืองในประเทศเริ่มชัดเจน ที่สามารถผ่านงบประมาณปี 69 ได้ต่อเนื่อง และทิศทางงบการเงิน บจ.ไตรมาส 2/68 อาจจะไม่ได้ปรับลดลง

แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เพิ่มเติม ดัชนีน่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ และมองแนวต้านไว้ที่ 1,250 จุดสิ้นปีนี้ แต่หากเจรจาภาษีทรัมป์ของไทยจะออกมาส่งผลดีต่อภาพรวม จะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยไปต่อได้

“ขณะนี้การลงทุนหุ้นไทยของกองทุน ยังต้องระมัดระวัง แม้ที่ผ่านมาราคาหุ้นไทยปรับลงมาเกินปัจจัยพื้นฐาน หุ้นบางกลุ่มยังมีการเติบโตดี กองทุนยังคงกลยุทธ์ทยอยเข้าสะสมหุ้นไทยบ้างในบางจังหวะเท่านั้น”

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรง จากตลาดลุ้นข่าวจบดีลเจรจาภาษีทรัมป์ ประกอบกับแรงหนุนจากกรณีที่ทรัมป์ไม่มีแผนจะปลดพาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

ขณะที่ปัจจัยในประเทศขานรับ รอแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่มองว่าจะสามารถทำงานสอดประสานกันด้วยดีทั้งภาคการเงินการคลัง ทำให้มีโอกาสลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น 

แต่อย่างไรก็ตามให้ระวัง แรงขาย sell on fact หุ้นไทย หากการเจรจาสหรัฐไม่เป็นไปตามคาด แต่หากดีลดันได้ คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นไทย ดัชนีอาจไปต่ออีก 1-2 สัปดาห์ ที่ระดับ 1,200-1,250 จุด

นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บล.บัวหลวง ว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วง 2-3 วันนี้ มาจากตลาดคาดการณ์ว่าการเจรจาสหรัฐ-ไทย อาจเหลือ 18% ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นประมาณ 13% ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2568 และเพิ่มขึ้น 7% ภายในสัปดาห์เดียว ซึ่งหากดีลจบตามคาด จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมาก

โดยก่อนหน้านี้มองกรอบของดัชนีโซนล่างไว้ที่ 1,000 จุด และกรอบบนที่ 1,200 จุด โดยมองว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะต้องไปโฟกัสที่งบไตรมาส 2/68 ที่กำลังจะทยอยออกมามากกว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมา Valuation หุ้นไทยที่ถูกมากเกินไป จึงทำให้มีการซื้อกลับเข้ามารับข่าวดังกล่าว

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาได้ปรับตัวพุ่งขึ้นจากการซื้อคืนของนักลงทุน หลังจากที่ตลาดปรับตัวลดลงไปมาก นักลงทุนมองว่าขณะนี้ตลาดหุ้นไทยถูก

ทั้งนี้ ตัวหนุนดัชนีเพิ่มขึ้นยังมาจาก หุ้น DELTA ที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ที่มีส่วนหนุนดัชนีเพิ่มขึ้นถึง 17 จุด  ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าตลาดกำลังกลับตัว พร้อมวอลุ่มที่หนาแน่นขึ้น 

อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ทางการเมือง ที่ยอมถอนร่างกฎหมาย Entertainment Complex ออก ช่วยลดแรงกดดันทางการเมือง รวมถึง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ก็มีโอกาสที่จะผ่านได้

ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนหากตลาดปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 1,200 จุด นักลงทุนควรหาจังหวะในการขายทำกำไรบางส่วน และถือเงินสด เนื่องจากตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็วเกินไปในสัปดาห์นี้ และมีโอกาสที่จะมีการพักตัวได้ โดยให้แนวรับ อยู่ที่ 1,180 จุด และหากสามารถผ่าน 1,200 จุดไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ประมาณ 1,220 - 1,230 จุด

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์