รัฐฯเดินหน้าหนุน ‘โซลาร์รูฟท็อป’ โบรกยก 'หุ้นพลังงาน' รับอานิสงส์

รัฐฯเดินหน้าหนุน ‘โซลาร์รูฟท็อป’ โบรกยก 'หุ้นพลังงาน' รับอานิสงส์

กระทรวงพลังงานส่งเสริมนโยบายติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" ในภาคครัวเรือนผ่านการลดหย่อนภาษีสูงสุด 200,000 บาท และเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ต่อ ครม. ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ นักวิเคราะห์มองว่านโยบายนี้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการพลังงาน ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงพีค และลดต้นทุนค่าไฟให้ภาคเอกชน หุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์โดยตรงคือกลุ่มธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปและพลังงานหมุนเวียน เช่น GUNKUL, BCPG, SCC, และ SPCG

KEY

POINTS

  • กระทรวงพลังงานส่งเสริมนโยบายติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" ในภาคครัวเรือนผ่านการลดหย่อนภาษีสูงสุด 200,000 บาท และเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ต่อ ครม. ในวันที่ 20 ก.ค.
  • นักวิเคราะห์มองว่านโยบายนี้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการพลังงาน ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงพีค และลดต้นทุนค่าไฟให้ภาคเอกชน
  • หุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์โดยตรงคือกลุ่มธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปและพลังงานหมุนเวียน เช่น GUNKUL, BCPG, SCC, และ SPCG
  • บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ให้ราคาเป้าหมายหุ้น BCPG ที่ 8 บาท คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 2 และ 3 จะฟื้นตัว
  • นอกจากกลุ่มพลังงานแล้ว หุ้นกลุ่มตกแต่งบ้านและค้าปลีกวัสดุก่อสร้างอย่าง HMPRO ก็อาจได้รับอานิสงส์ไปด้วย
  • มาตรการนี้สอดคล้องกับแนวโน้มพลังงานหมุนเวียนของโลก และช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยผู้ติดตั้งสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบได้

กระทรวงพลังงานเดินหน้าเต็มสูบ จากนโยบายส่งเสริมการติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" ในภาคครัวเรือน ด้วยมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุด 200,000 บาท พร้อมเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ หวังลดขั้นตอนติดตั้ง เพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานสะอาดมากขึ้น

รัฐฯเดินหน้าหนุน ‘โซลาร์รูฟท็อป’ โบรกยก 'หุ้นพลังงาน' รับอานิสงส์

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่า การที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการพลังงานในประเทศ เพราะการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะช่วยลดการใช้พลังงาน และลดความหนาแน่นของการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด และยังช่วยภาคเอกชน ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ทำให้มีค่าไฟที่ถูกลงได้

ทั้งนี้ ในตลาดโซลาร์รูฟท็อปมีบริษัทหลายแห่งที่เข้ามาทำธุรกิจด้วยโมเดลที่แตกต่างกันไป โดยตลาดเปิดกว้างไม่จำกัดเฉพาะรายใหญ่เท่านั้น ส่งผลให้มีผู้เล่นจำนวนมากที่อาจไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สามารถเข้ามาในตลาดนี้ด้วย ส่วนผู้เล่นรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ได้มีความได้เปรียบมากนัก เว้นแต่เป็นโครงการขนาดใหญ่มากๆ ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง

ปัจจุบันบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในตลาดหลักทรัพย์อย่าง GUNKUL และ  BCPG ที่รุกตลาดโซลาร์รูฟท็อปเช่นกัน ซึ่งการเข้าสู่ตลาดนี้ถือเป็นส่วนเสริมธุรกิจ ที่สอดคล้องกับภาพรวมของ BCPG ที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอยู่แล้ว โมเดลการเข้าลงทุนของ BCPG อาจจะเป็นได้ทั้งการผลิตไฟฟ้าเอง หรือการเข้าไปลงทุนให้ลูกค้าและแชร์ผลประโยชน์ 

ทั้งนี้ให้ราคาเหมาะสมของหุ้น BCPG อยู่ที่ 8 บาท และคาดว่าผลกำไรในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 จะมีการฟื้นตัวจากรายได้โครงการใหม่ๆ ที่จะรับรู้เข้ามา

จักรพงศ์ เชวงศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป หรือแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอย่างจริงจัง เพื่อลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาสูงสุด และลดการพึ่งพาพลังงานที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มด้านพลังงานหมุนเวียนของโลก

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวส่งเสริมให้ทั้งภาคครัวเรือนและโรงงานอุตสาหกรรมหันมาผลิตและใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปด้วยตนเอง หากมีการผลิตไฟฟ้าเหลือใช้จากที่ติดตั้งเองแล้ว ก็สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบโครงข่ายได้ ซึ่งการดำเนินการแบบนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์ที่สำคัญหลายประการไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ

รวมถึงส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานในแหล่งที่เกิดการใช้จริง และช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ภาครัฐจะต้องแบกรับ และลดภาระการลงทุนในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการลดการผลิตไฟฟ้าที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 

สำหรับหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการส่งเสริมนี้โดยตรงอย่าง GUNKUL และ SCC ที่ดำเนินธุรกิจรับติดตั้งระบบดังกล่าวอยู่แล้ว

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวในระยะสั้นอาจเป็นเพียงปัจจัยบวกด้านจิตวิทยา แต่ในระยะยาวถือเป็นทิศทางที่ดีสำหรับภาคพลังงานของประเทศอย่างชัดเจน 

ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลมีการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนมากกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานดั้งเดิม เช่น ถ่านหิน รวมไปถึงกระแสโลกและ COP26 ประเทศไทยกำลังเตรียมเข้าสู่มาตรฐานสากล เน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งอาจเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต

สำหรับหุ้นที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มตกแต่งบ้าน และค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง อย่าง HMPRO  เนื่องจากเมื่อมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป อาจก่อให้เกิดความต้องการในการตกแต่งบ้านเพิ่มเติม  และยังมีกลุ่มธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป หรือพลังงานหมุนเวียน เช่นหุ้น SPCG  , GUNKUL และ BCPG ที่ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเกี่ยวข้องกับโซลาร์รูฟท็อปในปัจจุบัน