ค่าไฟขาลง...สะเทือนกลุ่มโรงไฟฟ้า โบรกมองต่าง ‘หุ้นถูก-จังหวะเก็บ’

ค่าไฟขาลง...สะเทือนกลุ่มโรงไฟฟ้า โบรกมองต่าง ‘หุ้นถูก-จังหวะเก็บ’

นักวิเคราะห์มองการที่รัฐบาลตั้งเป้าควบคุมค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ไม่ให้เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย จะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่ม SPP เนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวไปแล้ว หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ขายไฟฟ้าให้เอกชน เช่น BGRIM และ GPSC ได้รับผลกระทบโดยตรง

KEY

POINTS

  • นักวิเคราะห์มองการที่รัฐบาลตั้งเป้าควบคุมค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ไม่ให้เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย จะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่ม SPP เนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวไปแล้ว
  • หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ขายไฟฟ้าให้เอกชน เช่น BGRIM และ GPSC ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ผลกระทบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับต้นทุนก๊าซธรรมชาติว่าจะลดลงตามค่าไฟหรือไม่
  • หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP เช่น RATCH, EGCO และ GULF ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าไฟ เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จาก IPP เป็นหลักและไม่มีรายได้จาก SPP
  • โบรกเกอร์มองว่าสถานการณ์นี้อาจเป็นจังหวะดีในการซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพื้นฐานดีราคาไม่สูง โดยแนะนำ GULF เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายค่าไฟ และยังได้ประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจากโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ

ภายหลังจากที่ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนครีและ รมว.พลังงาน ออกมากล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีเป้าหมายควบคุมค่าไฟฟ้าในงวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ไม่ให้เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย และพยายามลดให้ต่ำกว่า 3.98 บาท โดยอยู่ระหว่างบริหารจัดการต้นทุน นักวิเคราะห์ประเมินว่า หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP แม้ได้รับผลกระทบ แต่อยู่ในวงจำกัด เหตุมีการรับรู้ข่าวสารไปบ้างแล้ว จึงอาจรับผลกระทบวงจำกัดต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า

ค่าไฟขาลง...สะเทือนกลุ่มโรงไฟฟ้า โบรกมองต่าง ‘หุ้นถูก-จังหวะเก็บ’

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า โอกาสที่ค่าไฟฟ้าจะต่ำกว่า 4 บาทมาก ๆ อาจจะไม่มากนัก สาเหตุหลักที่รัฐบาลจะสามารถลดค่าไฟได้หากต้นทุนพลังงานมีการปรับตัวลดลงอย่างมาก หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องใช้กลไกอื่น ๆ แต่ดูแล้ว โอกาสที่ค่าไฟจะปรับลดลงอย่างรุนแรงจากจุดนี้ก็น่าจะไม่มากเช่นกัน

ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าไฟจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการที่ขายไฟฟ้าให้กับภาคเอกชน หรือ โรงไฟฟ้า SPP เช่น GPSC และ BGRIM อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับว่า ต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งหลัก ๆ มาจากก๊าซธรรมชาติ จะลดลงเร็วกว่าการปรับลดค่าไฟหรือไม่

ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าไฟฟ้าเลยคือ ผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนรายได้จาก IPP เป็นหลัก เช่น หุ้น RATCH EGCO และ GULF ซึ่งมักจะมีสัดส่วนของ IPP ค่อนข้างมากและไม่มีรายได้จาก SPP

ทั้งนี้นักลงทุนควรพิจารณาในกลุ่มที่มีรายได้จาก IPP เป็นหลัก เนื่องจากมีความเสี่ยงจากประเด็นการปรับค่าไฟที่ต่ำกว่า และคาดว่า แม้ค่าไฟจะมีการปรับลดลงจากระดับปัจจุบันที่ต่ำกว่า 4 บาทบ้าง แต่ก็น่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่ลดลงอย่างรุนแรง ดังนั้นความเสี่ยงต่อผลประกอบการของหุ้นกลุ่มนี้จึงอาจจะไม่สูงมากนัก

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) มองว่า หลังจากกระทรวงพลังงานมีแนวคิดทีจะลดค่าไฟงวดสุดท้ายของปีนี้อาจอยู่ที่ประมาณ 3 บาทกว่าๆ ทำให้กดดันกำไรของบริษัทโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIMB และ GPSC อย่างไรก็ตาม ตลาดน่าจะรับรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว และบริษัทส่วนใหญ่ได้มีการปรับลดกำไรลงไปหมดแล้ว ดังนั้นการปรับลดกำไรเพิ่มเติมจากนี้ ไม่น่าจะมีอีก

อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สำหรับโรงไฟฟ้า แม้ราคาค่าไฟจะถูกควบคุม แต่บางบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และลงทุนในโรงไฟฟ้าต่างประเทศ เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น จะส่งผลดีต่อหนี้สกุลเงินต่างประเทศที่ถืออยู่ โดยจะกลายเป็นกำไรจากการแลกเปลี่ยน ซึ่งต่างจากธุรกิจส่งออกที่อาจได้รับผลกระทบ

ในทางกลับกัน สถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเลือกซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพในช่วงที่ราคาอาจไม่สูงนัก แนะนำหุ้น GULF เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าในสหรัฐ ซึ่งได้รับประโยชน์จากปัจจัยเงินบาทแข็งค่า

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองว่า หากกระทรวงพลังงานฯ คุมไฟฟ้าไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย ก็ไม่น่าจะสร้างแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้า เนื่องจากสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณาประกอบคือ ราคาแก๊ส ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการผลิตไฟฟ้า หากราคาแก๊สปรับตัวลดลงไปพร้อมกับค่าไฟฟ้าที่ลดลง ก็จะสามารถชดเชยกันได้ ทำให้ผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นไม่รุนแรงนัก 

แต่ทว่าในกรณีที่ราคาแก๊สไม่ได้ปรับลดลง แต่กระทรวงพลังงานต้องการที่จะกดค่าไฟฟ้าให้ต่ำลงไปมาก เช่น 3.70 - 3.80 บาทต่อหน่วย กรณีเช่นนี้จึงจะเริ่มมีผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้าอย่างแท้จริง

สำหรับหุ้นที่อาจได้รับผลกระทบหากมีการปรับลดค่าไฟให้ต่ำกว่า 3.99 บาท เช่น BGRIM และ GPSC เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าประเภท SPP ค่อนข้างมาก ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงหากค่าไฟลดลงจริง ส่วนหุ้นที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้คือ GULF เนื่องจากไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเรื่องนโยบายการควบคุมค่าไฟมากนัก