หุ้น NEO ร่วง 5.28% โบรก ปรับลดประมาณการลง หลังผลงานไตรมาส 2/68 ไม่สดใส

หุ้น NEO ร่วง 5.28% โบรก ปรับลดประมาณการลง หลังผลงานไตรมาส 2/68 ไม่สดใส

NEO ลบ 5.28% ลดลง 1.30 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 23.30 บาท โบรก ปรับลดประมาณการลง หลังผลงานไตรมาส 2/68 ไม่สดใส

KEY

POINTS

  • บล.ลิเบอร์เรเตอร์คาดกำไรไตรมาส 2/68 ของ NEO จะหดตัวแรง 61% y-y และ 65% q-q เหลือเพียง 91 ล้านบาท
  • ผลงานที่อ่อนแอเป็นผลมาจากสัดส่วนการขายสินค้ามาร์จิ้นต่ำเพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย
  • โบรกเกอร์มีแนวโน้มที่จะปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีลงอย่างน้อย 20% จากปัจจุบัน หลังผลงานครึ่งปีแรกต่ำกว่าคาด
  • คาดว่าผลการดำเนินงานทั้งปี 2568 อาจลดลงราว 30% y-y ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 14 ก.ค.2568 เวลา 10.25 น. หุ้น NEO หรือ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ลบ 5.28% ลดลง 1.30 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 23.30 บาท

หุ้น NEO ร่วง 5.28% โบรก ปรับลดประมาณการลง หลังผลงานไตรมาส 2/68 ไม่สดใส

นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอร์เรเตอร์ เปิดเผยว่า หุ้น NEO คาดไตรมาส 2/68 กำไรเหลือเพียง 91 ล้านบาท หดตัว -61% y-y และ -65% q-q จากตัวเลข เอซี นีลเส็นใน 5 เดือนแรกพบว่า ยอดขายอุตสาหกรรมรวมของกลุ่มสินค้าของใช้ครัวเรือนขยายตัว 8-9% กลุ่มของใช้ส่วนบุคคลขยายตัว 2-3% แต่กลุ่มของใช้เด็กลดลง 5-6% 

ทั้งนี้ ในส่วนของ NEO นั้นปกติยอดขายจะโตมากกว่าอุตสาหกรรม ทำให้เราคาดว่ายอดขายจะโต +5% y-y ที่ 2,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดขายทั้งใน และต่างประเทศ 
 

โดยประเด็นลบรุมเร้าในไตรมาส 2/68 มาจากสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มของใช้ในครัวเรือนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าสินค้าอื่นมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่เร่งตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้าเริ่มส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตหลังสต็อกเก่าที่หมดลง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายและเปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่กลุ่มสัตว์เลี้ยง

ขณะที่ไตรมาส 3/68 คาดยังไม่ดี มีแนวโน้มปรับประมาณการลง โดยต้นทุนที่ลดลงคาดจะเริ่มส่งผลบวกตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นไปยังไม่เห็นผลในไตรมาส 3/68 อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่จะต่ำกว่าที่เคยคาดไว้อย่างมากทำให้เรามีแนวโน้มจะปรับประมาณการลงอีกครั้งหลังประกาศงบ 

โดยประมาณการล่าสุดคาดยอดขายจะเติบโตเพียง +7% y-y ที่ 10,808 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 42.5% ลดลงเล็กจากปีก่อนจากต้นทุนวัตถุดิบลดลงน้อยกว่าคาด และรับรู้ค่าเสื่อมราคาเต็มปีจากโรงงานแห่งใหม่ คาดกำไรสุทธิปี 2025 ที่ 934 ลบ. หดตัว -8% y-y

“แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 2/68 อาจดูแย่กว่าที่คาดไว้พอควรจากผลกระทบทางลบที่มากกว่าคาด ทำให้เราคาดว่าอาจต้องปรับลดประมาณการลงอย่างน้อย 20% จากปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม คาดการดำเนินงานน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q25 หลังราคาวัตถุดิบปรับลงแล้ว 7-12% q-q ซึ่งคาดจะเห็นผลบวกตั้งแต่ 4Q25 เป็นต้นไป แม้ราคาหุ้นจะปรับลงมามาก แต่เรามองยังมี downside จากการปรับลดประมาณการลง แนะรอก่อนได้ไม่ต้องรีบ คาดปีนี้ผลการดำเนินงานน่าจะลดลงราว 30% y-y หดแรงกว่าที่เคยคาดพอสมควร ”