ลงทุน ‘ดาต้าเซนเตอร์’ สะเทือน โบรกเกอร์คาดสหรัฐคุม ‘ชิป AI’ ไทย จ่อกระทบแผนลงทุน

โบรกเกอร์คาดมาตรการจำกัด “ชิปเอไอ” ของสหรัฐ เล็งเป้ามายังไทย และมาเลเซีย เนื่องจากความหวั่นเกรง อาจลักลอบส่งต่อชิปไปยังจีน กำลังสร้างแรง “กดดัน” ต่อภาพรวมการลงทุนในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรม “ดาต้าเซนเตอร์” และ “เอไอ คลาวด์” ที่ต้องพึ่งพาชิปประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลขั้นสูง
KEY
POINTS
- นักวิเคราะห์มองว่าแผนของสหรัฐ ที่จะจำกัดการส่งออกชิป AI มายังไทย จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนการลงทุนและพัฒนา “ดาต้าเซนเตอร์” ที่ต้องพึ่งพาชิปประสิทธิภาพสูงจากบริษัทอย่าง Nvidia
- การจำกัดการเข้าถึงชิป AI อาจทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนตั้งศูนย์ข้อมูลในไทยลดลง และส่งผลให้ไทยเสียเปรียบในการแข่งขันเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง
- กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบในอนาคต เนื่องจากนักลงทุนอาจเลือกไปลงทุนในประเทศอื่นที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยได้ง่ายกว่า ซึ่งความกังวลนี้ได้ส่งผลให้ราคาหุ้น WHA และ AMATA ปรับตัวลดลงแล้ว
- แม้ว่าผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันจะมีจำกัด แต่นักวิเคราะห์กังวลว่าอาจกระทบการตัดสินใจลงทุนในอุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์ และคลาวด์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และมีการลงทุนต่อเนื่อง
กรณีสหรัฐมีแผนจำกัดการส่งออกชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง หรือ ชิป AI จากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ โดยเฉพาะ Nvidia ไปยังบางประเทศในเอเชีย รวมถึงมาเลเซีย และไทย ที่มีความกังวลอาจถูกลักลอบส่งต่อไปยังจีน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมด้านเทคโนโลยีอย่างเข้มงวดจากทางการสหรัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อแผนลงทุน “ศูนย์ข้อมูล” (Data Center) และ AI Cloud ที่ต้องพึ่งพาชิปประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลขั้นสูง ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อการลงทุนโดยตรงในไทย และสร้างความกังวลต่อแนวโน้มการดึงดูด FDI ในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนว่าะจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากกรณีที่สหรัฐมีแผน “จำกัดชิป AI” มายังประเทศมาเลเซีย และไทย มองว่าธุรกิจในไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง รวมถึงหุ้นในกลุ่ม SET50 และ SET 100 ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบน้อย อย่าง “กลุ่มโรงไฟฟ้า” ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น KCE , HANA ก็ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่ได้มีสินค้าเกี่ยวข้องกับ AI โดยตรง และ DELTA ก็ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากส่วนใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศ และไม่ได้ขายในเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคาดเกิดความกังวลต่อแผนการลงทุน และขีดความสามารถในการแข่งขัน แม้ปัจจุบันผลกระทบจะ “จำกัด” แต่ในอนาคตกลับมีประเด็นที่น่ากังวล โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้าน AI และ Data Center ในอนาคตการพัฒนา Data Center ที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูงเพื่อรัน AI จำเป็นต้องพึ่งพาชิปประสิทธิภาพสูง ซึ่ง Nvidia เป็นผู้นำในด้านนี้ หากมีการจำกัดการส่งมอบชิป Nvidia จะทำให้การสร้าง Data Center ที่สามารถรัน AI ประสิทธิภาพสูงในไทยเป็นไปได้ยากขึ้น
โดยประเด็นดังกล่าวทำให้ความน่าสนใจลงทุนตั้งศูนย์ข้อมูลในไทยลดลง และอาจทำให้ไทยเสียเปรียบการแข่งขันด้านการดึงดูดลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI เทียบกับประเทศที่ Nvidia ยังคงจัดส่งชิปให้ ขณะที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบในอนาคต เนื่องจากแนวโน้มของ Data Center และการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่อาจลดลงในไทย หากไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัยได้ FDI อาจเลือกไปลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของประเทศอื่นที่สามารถเข้าถึงชิป และเทคโนโลยีล้ำสมัยได้มากกว่า
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การควบคุมชิป AI ของสหรัฐ ไม่ได้มีผลกระทบมากนักกับหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในไทยโดยตรง เนื่องจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในไทยเน้นการรับจ้างประกอบ และผลิต และไม่ได้มีสินค้าที่ซับซ้อนถึงระดับที่ต้องใช้ AI มากนัก
ทว่าอาจมีผลกระทบกับการตัดสินใจลงทุนในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ Data Center หรือคลาวด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ถือเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ดูแข็งแกร่ง และมีการลงทุนต่อเนื่องในภาวะที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง
ทั้งนี้ จากความกังวลต่อหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเมื่อมีประเด็นราคาชิป AI เข้ามา ก็ทำให้ตลาดเกิดความกังวล และส่งผลกระทบไปถึงแนวโน้มของหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง
นายกรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเสริมว่า กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมได้ผลกระทบต่อประเด็นหลักกรณีสหรัฐมองไทย และมาเลเซียอาจเป็นประเทศทางผ่านสำหรับการส่งชิปไปยังจีน ซึ่งสหรัฐฯ มีความกังวลว่าชิปที่ถูกส่งมายังไทยและมาเลเซียอาจถูกส่งต่อไปยังจีนได้ เนื่องจากไทยมีการขาดดุลการค้ากับจีนสูงที่สุด
สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายกับกรณีที่เวียดนามเคยถูกมองว่าเป็นทางผ่านของสินค้า และจากความกังวลดังกล่าว อาจทำให้เม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อที่ดิน การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน Data Center หรือการลงทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ AI ในไทย และมาเลเซีย อาจชะลอตัวลง
“ราคาหุ้น WHA และ AMATA ได้ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงความกังวลของสหรัฐที่มองว่าไทยเป็นเส้นทางผ่านสินค้าไปยังจีนนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน และอาจชะลอเม็ดเงินลงทุนใหม่ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงมีประเด็นเรื่องภาษีที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แนะนำชะลอลงทุน”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







