ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 ก.ค.) ปิดตลาดพุ่ง 20.45 จุด แนวโน้มชุมนุมใหญ่คลาย

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 ก.ค.) ปิดตลาดพุ่ง 20.45 จุด แนวโน้มชุมนุมใหญ่คลาย

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 ก.ค.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,110.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.45 จุด หรือ 1.88% "นักวิเคราะห์" ชี้ หุ้นไทยปรับตัวขึ้นเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทำให้แนวโน้มการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองลดน้อยลงจากการที่ "แพทองธาร" หยุดปฏิบัติหน้าที่

"ตลาดหุ้นไทยวันนี้" (1 ก.ค.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,110.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.45 จุด หรือ 1.88% โดยดัชนีหุ้นไทย เคลื่อนไหวในแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,110.01 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,086.56 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 41,710.76 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 ก.ค.) ปิดตลาดพุ่ง 20.45 จุด แนวโน้มชุมนุมใหญ่คลาย ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (1 ก.ค.)

หุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. KTC ราคาปิด 24.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 1.67% มูลค่าซื้อขาย 3,539.18 ล้านบาท
  2. DELTA ราคาปิด 104.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ 8.33% มูลค่าซื้อขาย 3,065.61 ล้านบาท
  3. PTT ราคาปิด 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.67% มูลค่าซื้อขาย 2,608.52 ล้านบาท
  4. ADVANC ราคาปิด 283.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 1.80% มูลค่าซื้อขาย 2,491.52 ล้านบาท
  5. KBANK ราคาปิด 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.65% มูลค่าซื้อขาย 2,258.83 ล้านบาท

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทย มีการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 15 - 20 จุดทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา

การตอบรับเชิงบวกจากตลาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคำวินิจฉัย 7:2 ที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งถูกมองว่ามีความชัดเจนและมีน้ำหนักมากกว่ากรณีของอดีตนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเศรษฐา ทวีสิน ที่ผลโหวตก้ำกึ่ง การตัดสินดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอาจช่วยลดอุณหภูมิทางการเมืองและการชุมนุมลงได้ เนื่องจากข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมอาจได้รับการตอบสนองแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่ แม้จะมีความคาดหวังว่าสถานการณ์การเมืองจะผ่อนคลาย แต่ปัจจัยสำคัญยังคงอยู่ที่อนาคตของรัฐบาล หากนายกฯ ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยการเมืองในประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่ปลดล็อค เช่น คดีความต่างๆ และการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำยังไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ชัดเจน รวมถึงปัจจัยต่างประเทศที่ต้องจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้า

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของตลาดในวันพรุ่งนี้ นายอภิชาติ แนะนำให้จับตาแนวรับที่ขยับขึ้นมาที่ระดับ 1,090 จุด ขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,120 จุด

ในสภาวะที่ปัจจัยการเมืองยังคงสร้างความไม่แน่นอน นายอภิชาติ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนโดยเน้น หุ้นปันผลดี และกลุ่มหุ้นที่มีความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองในประเทศน้อย ได้แก่ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า หุ้นที่มีรายได้จากต่างประเทศ เช่น กลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และส่งออกอาหาร รวมถึง หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยเน้นการเลือกเฟ้นเป็นรายตัว