4 หุ้นดังรอบสัปดาห์ดีดตัวแรง KTC-XPG-BEC-TPS บวก 8.9% โบรกเผย คลายกังวล Force Sell

หุ้น KTC-XPG-BEC- กอดคอบวกแรง หลังฟลอร์ติด 2-3 วัน นักวิเคราะห์เผย คลายกังวล Force Sell เริ่มเบาบาง ด้าน TPS แจ้งตลาดฯ ยัน ฐานะทางการเงินยังคงมีความมั่นคง การเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์มาจากปัจจัยภายนอก สภาวะตลาดโดยรวม อยู่นอกเหนือการควบคุม
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย ภาคเช้า ณ วันที่ 26 มิ.ย.2568 เวลา 10.30 น. หุ้น KTC BEC XPG และ TPS ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง หลัง 2-3 วันที่มาหุ้นดิ่งฟลอร์
หุ้น XPG บวก 8.89% เพิ่มขึ้น 0.04% ระดับราคาอยู่ที่ 0.49 บาทหุ้น
หุ้น BEC บวก 7.65% เพิ่มขึ้น 0.14% ระดับราคาอยู่ที่ 1.97 บาท
หุ้น TPS บวก 3.05% เพิ่มขึ้น 0.08% ระดับราคาอยู่ที่ 2.70 บาท
หุ้น KTC บวก 2.83% เพิ่มขึ้น 0.75% ระดับราคาอยู่ที่ 27.25 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่เคยเผชิญกับความกังวลด้านแรงขายบังคับ หรือ Force Sell ที่เริ่มเบาบางลง และปรับตัวขึ้น
สำหรับหุ้น KTC ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ถูกจับตามองมีการปรับตัวขึ้นมา ซึ่งคำแนะนำสำหรับหุ้น KTC จากเดิม "ขาย" เป็น "ซื้อ" ราคาเป้าหมายใหม่ไว้ที่ 31 บาท หาก KTC สามารถขึ้นไปถึงราคาเป้าหมายดังกล่าว จะคิดเป็นอัตราส่วน PBV ประมาณ 1.8 เท่า ถึงว่ายังไม่แพงจนเกินไป แม้จะสูงขึ้นมาเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม KTC แม้จะเคยเผชิญกับประเด็นปัญหาต่างๆ แต่บริษัทได้มีการรัดกุมในการพิจารณาและให้สินเชื่อมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ KTC ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำคัญคือ สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ KTC ยังคงสามารถรักษาให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคงระดับนี้มานานตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ ประเมินว่า เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนเพื่อการเทรดดิ้งในหุ้น KTC
ในส่วนของหุ้น XPG และ BEC ก็ได้รับอานิสงส์จากการคลายความกังวลเกี่ยวกับ Force Sell เช่นกัน ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวบวกขึ้นมาอย่างโดดเด่นในวันนี้
บุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่ราคาหลักทรัพย์ของบริษัทมีการ
เปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องในระยะนี้ และได้รับการสอบถามจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย เกี่ยวกับสถานะการดำเนินงานของบริษัทฯ
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์ดังกล่าว เป็นผลจากปัจจัยภายนอกและสภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ และมิได้เกิดจากข้อมูลภายใน หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ไม่มีข้อมูลภายในที่มีนัยสำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามปกติและสอดคล้องกับแผนธุรกิจที่กำหนดไว้ โดยฐานะทางการเงินยังคงมีความมั่นคง และบริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี กฎเกณฑ์และข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด







