UBS ลดน้ำหนัก ‘หุ้นไทย’ เป็น Neutral ชี้การเมือง กดดันครึ่งปีหลัง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า  UBS Group AG ปรับลดระดับอันดับ “หุ้นไทย” จาก “Overweight” (เพิ่มน้ำหนักการลงทุน) เป็น “Neutral” (คงน้ำหนักการลงทุน)  โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางนโยบายและบรรยากาศการลงทุนของนักลงทุน

นักลงทุนถอยห่าง ESG-นทท.จีนฟื้นช้า กดดันหุ้นไทยครึ่งปีหลัง

นักวิเคราะห์หลายคนรวมทั้ง Sunil Tirumalai  ได้ระบุในรายงานว่า กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ESG ของไทยยังไม่ค่อยดีนัก ซึ่งบ่งบอกว่านักลงทุนยังไม่มั่นใจในหุ้นไทย นอกจากนี้ การท่องเที่ยวของไทยที่หวังพึ่งนักท่องเที่ยวจีนก็ฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดไว้มาก

ดังนั้น การปรับลดมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยครั้งนี้ ถือเป็นการกลับทิศจากเดิมที่เคยปรับเพิ่มระดับตลาดเมื่อ 3 เดือนก่อน สาเหตุมาจากความเสี่ยงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและกระตุ้นให้เกิดการเทขายหุ้นในช่วงต้นปีนี้ และการที่ไม่มีข่าวดีหรือปัจจัยบวกใหม่ๆ ในระยะใกล้ อาจทำให้ผลตอบแทนของตลาดในช่วงครึ่งปีหลังไม่ค่อยดีนัก รวมถึงปัจจัยบางอย่างที่ธนาคาร UBS เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคมก็ "ไม่เป็นไปตามที่หวัง"

การเมืองฉุดหุ้นไทยระส่ำ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี สาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งความขัดแย้งที่มากขึ้นในรัฐบาลผสมอาจทำให้การออกกฎหมายสำคัญๆ หยุดชะงัก 

นอกจากนี้ กระทบต่อการเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐ ซึ่งทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสินทรัพย์ของไทยที่ทำกำไรได้ต่ำกว่าเป้าหมายอยู่แล้ว

ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยติดต่อกันเป็นเวลา 5 วันทำการจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 23 มิ.ย 2568 เปิดตลาด ปรับตัวลง 9.65 จุด หรือลบ 0.90% หรืออยู่ที่ 1,057.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,532.71 ล้านบาท

ตลท.ออกมาตรการ "ชั่วคราว" คุมตลาดหุ้นผันผวน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศใช้มาตรการชั่วคราวเพื่อรองรับความผันผวน โดยปรับเกณฑ์  โดย Ceiling & Floor เหลือ 15% จาก 30% และ Dynamic Price Band เหลือ 5% จาก 10%  เริ่มวันนี้ (23  มิ.ย.) ถึง 27 มิ.ย.68

ตลท. ระบุในแถลงการณ์วานนี้ (22 มิ.ย.) ว่า “เนื่องจากความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง ความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภูมิภาคและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจึงเพิ่มมากขึ้น” 

อ้างอิง Bloomberg