หุ้น ‘อิสราเอล’ พุ่งแรง หวังสหรัฐโจมตีอิหร่าน ช่วยขัดแย้งคลี่คลาย

ตลาดหุ้น ‘อิสราเอล-อียิปต์’ พุ่งแรงในรอบ 21 ปี นักลงทุนมองบวกสหรัฐโจมตีอิหร่าน ช่วยคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างประเทศจบเร็วขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นในตะวันออกกลางปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในอิสราเอลและอียิปต์ นักลงทุนในแถบนั้นมองว่า การที่สหรัฐโจมตีอิหร่าน อาจเร่งให้ความขัดแย้งระหว่างประเทศกับอิสราเอลจบลงเร็วขึ้น
ดัชนี อ้างอิง TA-35 ของอิสราเอลเพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 6 และยังคงเดินหน้าสู่การเติบโตรายไตรมาสครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 21 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 ส่วนดัชนีอ้างอิงหุ้นของอียิปต์เพิ่มขึ้น 2.7%
ในอิสราเอล หุ้นของธนาคารทำกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุด ในขณะที่หุ้นของบริษัทด้านการป้องกันประเทศอย่าง Elbit Systems Inc. กลับลดลงมากกว่า 2%
ฮัสเนน มาลิก นักวิเคราะห์จากบริษัทเทลลิเมอร์ในดูไบกล่าวว่า "ตอนนี้ตลาดกำลังจับตาดูว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะขยายวงไปสู่ประเทศอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจน แต่นักลงทุนกำลังตีความในมุมมองเชิงบวกว่า การที่สหรัฐเข้ามาแทรกแซง อาจทำให้สงครามจบลงเร็วขึ้นได้ แต่เรื่องนี้ก็ยังต้องรอดูกันต่อไป"
ยานิฟ ปาโกต รองประธานฝ่ายซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เทลอาวีฟ ได้กล่าวว่า "ตอนนี้ตลาดกำลังแสดงความเชื่อมั่นอย่างระมัดระวังท่ามกลางสถานการณ์ด้านความปลอดภัย การที่ตลาดหุ้นปรับขึ้นนั้นสะท้อนว่าความเสี่ยงของอิสราเอลลดลงแล้ว"
จับตาตลาดตะวันออกกลางระอุ
นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่าตลาดในตะวันออกกลางจะตอบสนองอย่างไร เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็อาจกระตุ้นให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลกได้
ผู้จัดการกองทุนต่างเฝ้ารอการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นการพยายามปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งน้ำมันและก๊าซ หรือการโจมตีสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้
มาลิก อธิบายว่าในระยะสั้น ราคาน้ำมันดิบจะผันผวนอย่างมาก ขึ้นอยู่กับการที่อิหร่านจะตอบโต้และขยายความขัดแย้งจนส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในตลาดหรือไม่ แทนที่จะยอมอ่อนข้อและผ่อนปรนโครงการนิวเคลียร์
“ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับภูมิภาคนี้คือการที่รัฐบาลอิหร่านจะล่มสลาย และกลายเป็นสงครามกลางเมืองแบบซีเรีย ซึ่งการที่สหรัฐเข้ามาแทรกแซง อาจยิ่งเพิ่มโอกาสที่เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้”