ตลาดหุ้นไทย วันนี้ (19 มิ.ย.) ดิ่ง 25.85 จุด พรุ่งนี้จ่อทดสอบ 1,055 จุด

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (19 มิ.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,068.73 จุด ลดลง 25.85 จุด หรือ 2.36% โดยดัชนี หุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,085.71 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,066.07 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 46,619.24 ล้านบาท

ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (19 มิ.ย.)

หุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. GULF ราคาปิด 38.75 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 4.32% มูลค่าซื้อขาย 3,379.63 ล้านบาท
2. KBANK ราคาปิด 148.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.66% มูลค่าซื้อขาย 2,898.53 ล้านบาท
3. ADVANC ราคาปิด 269.00 บาท ลดลง 9.00 บาท หรือ 3.24% มูลค่าซื้อขาย 2,806.36 ล้านบาท
4. CPALL ราคาปิด 42.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 4.49% มูลค่าซื้อขาย 2,726.40 ล้านบาท
5. TRUE ราคาปิด 10.70 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.73% มูลค่าซื้อขาย 1,592.91 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยดิ่งวันที่ 2 ปัจจัยการเมืองกดดัน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยแรงขายในวันนี้มีความรุนแรงมากกว่าเมื่อวาน ดัชนี SET เคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 1,060 - 1,070 จุด สาเหตุหลักมาจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่สร้างความไม่แน่นอน หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบกับคลิปเสียงหลุดที่ส่งผลให้ประชาชนสูญเสียความไว้วางใจต่อรัฐบาลเพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ในตลาดหุ้นครั้งนี้น่ากังวลมากน้อยขนาดไหน นายอภิชาติ กล่วาว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่อยู่ในระดับน่ากังวล เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในทิศทางการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็ก พรรคเพื่อไทยมีทางเลือกสองแนวทาง คือ การยุบสภาลาออกหรือการยื้อเวลาอยู่ในตำแหน่งต่อไป หากเลือกยื้อเวลา รัฐบาลอาจใช้เหตุผลจากสามวาระสำคัญ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การผ่านงบประมาณปี 2569 และการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่กำหนดเดดไลน์วันที่ 9 ก.ค. 2025

สำหรับคำแนะนำการลงทุน แนะนำให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์ "รอดูก่อน" เนื่องจากการเข้าลงทุนในขณะนี้มีความเสี่ยงสูงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง แม้ตลาดจะอยู่ในระดับที่อาจถือว่าน่าสนใจ แต่หากเกิดการยุบสภาฯ ทันทีอาจส่งผลลบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงความชัดเจนจากรัฐบาลเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานในระยะข้างหน้า

แนวโน้มวันถัดไป ดัชนี SET คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ 1,055-1,060 จุด ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดของปีที่ 1,056 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,100-1,120 จุด การฟื้นตัวของตลาดจะขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาลในการสร้างความชัดเจนและความมั่นคงทางการเมือง โดยเฉพาะการแสดงท่าทีของพรรคการเมืองขนาดเล็กที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเมืองและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะต่อไป