หุ้นไทยเช้านี้ดิ่ง 13.81 จุด รับแรงกดดัน การเมืองเดือด โบรกเผยฉุดความเชื่อมั่นต่ำสุดขีด

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 19 มิ.ย 2568 ปรับตัวลง 13.81 จุด หรือลบ 1.26% หรืออยู่ที่ 1,080.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,687.45 ล้านบาท

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดิ่งต่อเนื่อง เหตุจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ฉุดความเชื่อมั่นต่ำสุดขีด ซึ่งให้น้ำหนักมากกว่าปัจจัยภายนอก

โดยปัจจัยกดดันหลักมาจากกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมา บวกกับการถอนตัวของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งส่งผลให้สถานะของรัฐบาลเผชิญกับเสียงปริ่มน้ำ และยังประสบกับแรงกดดันให้ยุบสภาหรือการลาออกอีกด้วย เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ในระดับต่ำ

โดยแนวรับแรกอยู่ที่ 1,060-1,080 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,000 จุดถ้วน แนวรับสุดท้ายอยู่ที่ 970 จุด ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับระดับต่ำสุดในช่วงโควิดที่ประมาณ 960-970 จุด

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุนในช่วงนี้กลุ่มธนาคารแนะนำเป็นหุ้น BBL KBANK KTB และ SCB ขณะที่กลุ่มพลังงานแนะนำเป็นหุ้น PTT และ PTTEP 

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การเมืองในประเทศค่อนข้างตึงเครียด โดยวานนี้พรรคภูมิใจไทย ปฎิเสธข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการแลกตำแหน่งรัฐมนตรี และได้ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.มากถึง 69 คน จึงส่งผลให้เสถียรภาพของรัฐบาลดูอ่อนแอมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่างคุณแพทองธาร นายกรัฐมนตรีไทยกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยเนื้อหาบางส่วนค่อนข้างบั่นทอนความเชื่อมั่นของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคงต้องติดตามต่อว่าทางด้านพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร โดยแนวทางอาจมีหลายวิธี เช่น การดึง ส.ส. จากพรรคอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเสถียรภาพของรัฐบาล, การแสดงการลาออกของนายกฯ และเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่เข้ามาแทน หรือในแย่ที่สุดอาจนำไปสู่การยุบสภาฯ ซึ่งเป็นแรงกดดันอย่างมากภาพรวมของ  SET ดังนั้นในช่วงสั้นอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น

ส่วนผลประชุม FED เมื่อคืนมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ตามคาด และหากประเมินจาก Dot Plot บ่งชี้ว่าในช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจมีการปรับลดคาดการเติบโตของ US GDP ปีนี้ลงเหลือ 1.4% จากคาดเดิม 1.7% ส่วนเงินเฟ้อสิ้นปีปรับเพิ่มสู่ 3.0% จาก 2.7% อย่างไรก็ดีในภาพระยะสั้น FED ยังคงเกาะติดนโยบายภาษีของทรัมป์ว่าจะกระทบเงินเฟ้อและการเติบโตอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นสิงที่ต้องตามต่อ โดยให้กรอบการลงทุนวันนี้ไว้ที่ 1070-1100 จุด 

สำหรับ หุ้นแนะนำวันนี้ MONO เปิดเผยค่าบริการรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีค และเอฟเอคัพ ในราคาเพียง 299 บาทต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าที่ตลาดคาด ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อ MONO ที่มีโอกาสได้จำนวนสมาชิกมากขึ้น โดยเราคาดเป้าที่ 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2 ล้านคน ในขณะที่ MONO ยังได้ส่วนแบ่งค่าถ่ายทอด 50 บาท/สมาชิก/เดือน เช่นเดิม ปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้น +85% และ +90% ตามลำดับ ราคาเป้าหมาย 2.69 บาท