ตลท. เคาะรายชื่อ “รองผู้จัดการ” คนใหม่  “สรวิศ ไกรฤกษ์”

      บรรยากาศตลาดหุ้นไทยเผชิญความท้าทายต่อเนื่องทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก จนทำให้การขับเคลื่อนและพลักดันในหลายโครงการต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่นและมองเห็นโอกาสการลงทุน  ที่ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)  เดินหน้าหลายโครงการเพื่อกระตุ้นการลงทุนแต่ยังต้องเสริม 'ผู้ช่วยแม่ทัพ' ที่มีมุมมองใหม่ๆ เข้ามาประสานและสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้ง บริษัทจดทะเบียนและนักลงทุน 

     หลังจาก นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์  อดีตรองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท. ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2567 ไปแล้วนั้นทำให้ตำแหน่งดังกล่าวว่างเว้นไว้และยังไม่มีการเสนอบุคคลภายนอกเข้ามารับตำแหน่ง ทำให้เป็นที่จับตามองมาโดยตลอดว่าจะมีการคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้ามารับตำแหน่งหรือไม่ 

      นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผย “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าได้มีการเสนอชื่อและทาบทามหลายรายชื่อจากบอร์ดซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้ามาตำรงตำแหน่งรองผู้จัดการ   ฝ่ายงานตลาดทุน เรียบร้อยแล้ว คือ  นายสรวิศ ไกรฤกษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง น่าจะมีผลเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ส.ค. 2568   

       งานของ ตลท. มีจุดที่ต้องเสริมเข้ามาเพิ่มเติมโดยเฉพาะการหาสินค้าดีที่เป็นสิ่งสำคัญในการลงทุน  บวกกับการทำงานในฐานะสายงานวาณิชธนกิจมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว ตอบรับกับตลาดทุนต้องการโปรดัสก์ใหม่และดี และยังต้องสอดคล้องกับโปรดักส์เดิมที่มีอยู่แล้วด้วยเพื่อพัฒนา   

      โครงการ Jump+ เป็นอีกโปรดัสก์ที่เกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง 2568 ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 26 มิ.ย. นี้และรองผู้จัดการคนใหม่จะเข้ามาช่วยดูโครงการนี้ด้วย  ด้วยเบื้องต้นคาด ว่าจะมีบจ.ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 50-100 บจ. ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่ม บจ. ขนาดกลางที่ต้องขึ้นมาอยู่ในสายตานักลงทุนมากขึ้น  

      งานที่ต้องสื่อสารกับต่างประเทศ สร้างความเข้าใจเพิ่มสตอรี่ใหม่ให้กับตลาดทุน  เพราะปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์สื่อสารกับนักลงทุนทุกกลุ่ม อย่างกลุ่มต่างประเทศแม้จะมีการออกไปโรดโชว์น้อยลง แต่ความสนใจนักลงทุนต่างชาติยังมีอยู่ ยิ่งมีโครงการ Jump+ เชื่อมั่นจะเป็นการกระตุ้นความสนใจของนักลงทุน  

       “ปัญหาการออกไปโรดโชว์ มักจะมีเสียงตอบรับจาก บจ. ว่าได้รับความสนใจน้อยกว่าในอดีต จำนวน meeting น้อยลง  ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่สนใจตลาดหุ้นไทย แต่เป็นเพราะขาดจุดขายหรือสตอรี่ใหม่ๆ  ซึ่งการอออกไปโรดโชว์ไม่ทำไม่ได้ต้องมีอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องมานั่งทำงานกันว่าทำอย่างไรให้เกิดจุดขายใหม่ไปกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนต่างชาติให้ได้ ”

        ร่วมถึงการเพิ่มบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นการปรับสมดุลในองค์กร    เนื่องจากด้านสายงานระดมทุนบุคคลากรในตลท. มีอายุใกล้เกษียณอายุจำนวนมากทำเกิดช่องว่างการทำงาน   ซึ่งเป็นเหมือนหลายๆ องค์กรที่ในสังคม   Ageing Society ทำให้ต้องหา Successor  เข้ามารับช่วงต่อและประสานงานต่อไปด้วย ดังนั้นหากมีคนใหม่เข้ามาเสริมทำให้ปิดช่องโหว่งตรงนี้ได้ 

     สำหรับประวัติการทำงานของ  นาย สรวิศ ไกรฤกษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.  บัวหลวง ซึ่งถือว่าเป็นลูกหม้อขององค์กรโดยตรง เพราะผ่านการทำงานทั้ง  Executive Vice President, Investment Banking Group ตำแหน่ง Senior Vice President  และ First Vice President รวมทั้ง  ตำแหน่ง Senior Vice President ธนาคาร  กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อีกด้วย 

     โดยสำเร็จการศึกษา  ปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ London School of Economics, UK และ ปริญญาโท สาขาการเงิน London Business School, UK