ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ หลังเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย พาวเวลส่งสัญญาณจะรอจนกว่าจะเห็นผลกระทบของมาตรการภาษีของทรัมป์ต่อเงินเฟ้อก่อนที่จะลดดอกเบี้ย

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นสหรัฐวันพุธ (18 มิ.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม และประธานเจอโรม พาวเวลส่งสัญญาณว่าจะรอจนกว่าจะเห็นผลกระทบของมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเงินเฟ้อก่อนจึงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ซึ่งมีหุ้น 30 ตัวปิดติดลบ 44.14 จุด หรือ 0.10% สู่ระดับ 42,171.66 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.03% สู่ระดับ 5,980.87 จุด แต่ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ปิดบวก 0.13% สู่ระดับ 19,546.27 จุด

เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25-4.5% เมื่อวันพุธ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นข่าวที่ทั้งดีและไม่ดีสำหรับนักลงทุน เนื่องจากธนาคารกลางยังคงส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสองครั้งในปีนี้ ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณว่าจะมีความเสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจโตต่ำแต่เงินเฟ้อสูง (Stagflation)  ผู้กำหนดนโยบายได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2025 นี้ เหลือเพียง 1.4% และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็น 3.1%

แม้ว่าพาวเวลจะกล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการตัดสินใจของเฟดว่า “เรากำลังเริ่มเห็นผลบางอย่าง” ของภาษีศุลกากรต่อเงินเฟ้อ แต่เขายังกล่าวอีกว่าผู้กำหนดนโยบาย “อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะรอ” ก่อนที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยใดๆ

พาวเวลกล่าวว่า “ขนาดของผลกระทบจากภาษีศุลกากร กรอบเวลา และระยะเวลาที่จะส่งผลนั้น ล้วนมีความไม่แน่นอนสูง นั่นคือเหตุผลที่เราคิดว่าสิ่งที่เหมาะสมคือการรักษาจุดที่เรายืนอยู่ ในขณะที่เราเรียนรู้เพิ่มเติม”

ตลาดมองความเสี่ยงสงครามอิสราเอล-อิหร่านลดลง

ด้านความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่หน้าทำเนียบขาวในวันพุธว่าอิหร่านได้ติดต่อเข้ามาและส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะส่งคณะผู้แทนมายังวอชิงตันเพื่อเจรจา

ประธานาธิบดีกล่าวว่า “พวกเขาต้องการเจรจา” “พวกเขายังเสนอที่จะมาที่ทำเนียบขาวด้วย ถือเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะทำ”

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นร่วงลงเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

การโจมตีระหว่างทั้งสองประเทศเข้าสู่วันที่หกในวันพุธ โดยผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี กล่าวว่าอิหร่านจะไม่ยอมแพ้ และเตือนว่าสหรัฐฯ จะ “ได้รับความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างไม่ต้องสงสัย” หากเข้าสู่ความขัดแย้ง  ผู้นำอิหร่านออกมาตอบโต้หลังทรัมป์จี้ให้อิหร่านยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งก่อให้เกิดการคาดเดาว่า สหรัฐอาจจะร่วมมือกับอิสราเอลโจมตีอิหร่านเพื่อทำลายโครงการนิวเคลียร์

“เหมือนตลาดจะเชื่อมั่นมากว่า ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ลดลง” แซ็กคารี ฮิลล์ หัวหน้าฝ่ายจัดการพอร์ตโฟลิโอของ Horizon Investments กล่าวกับทีวีซีเอ็นบีซี “นั่นถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องมาโดยตลอด ดังนั้น ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ผลักดันเราจนถึงตอนนี้”