พิษการเมืองร้อนทุบ ‘หุ้นไทย’ ดัชนีหลุด 1,100 จุด รับกังวลสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล

พิษการเมืองร้อนทุบ ‘หุ้นไทย’ ดัชนีหลุด 1,100 จุด รับกังวลสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล

“ดัชนีหุ้นไทย” ดิ่งแรง 19 จุด อยู่ที่ 1,094.58 จุด ถือว่าต่ำระดับ 1,100 จุดอีกครั้ง ด้านนักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิ1,139.61 ล้านบาท“บล.บัวหลวง” ชี้สถานการณ์การเมืองภายใน สร้างความกังวล “บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล” คาดจากแรงขายนักลงทุน หลังกังวลความขัดแย้งภายในพรรคร่วม “บล.ลิเบอเรเตอร์” ชี้สาเหตุจากความไม่แน่นอนทางการเมือง “บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์” ชี้จาก“คลิปเสียงหลุด”

ความเคลื่อนไหว “ดัชนีหุ้นไทย” วานนี้ (18 มิ.ย.2568) ดิ่ง 19 จุด มาอยู่ที่ 1,094.58 จุด หรือลดลง 1.71% มูลค่าซื้อขาย 36,048.37 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -1,139.61 ล้านบาท หลังความ “ร้อนแรง” ทางการเมืองที่ปะทุขึ้นจากการเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงประเด็นความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทวีความตึงเครียดหลังมีคลิปเสียงบทสนทนาที่ถูกปล่อยออกมาจากทางกัมพูชาออกสู่สาธารณะ ยิ่งซ้ำเติมความกังวลในหมู่นักลงทุนไทย และต่างชาติเทขายหุ้นออกอย่างหนัก

พิษการเมืองร้อนทุบ ‘หุ้นไทย’ ดัชนีหลุด 1,100 จุด รับกังวลสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล

นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หุ้นไทยปรับตัวร่วงหนักวานนี้ สาเหตุหลักมาจากประเด็นทางการเมือง จากความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดมีคลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมาจากทางกัมพูชาได้สร้างความกังวลเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม นอกจากประเด็นคลิปเสียงที่หลุดออกมาแล้ว ก่อนหน้านี้มีความกังวลในเรื่องของกระทรวงมหาดไทย ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อาจจะถอนตัวออกจากฝั่งรัฐบาล ทำให้เสียงรัฐบาลจะน้อยลง และเมื่อมีเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา เข้ามาซ้ำเพิ่ม ทำให้การเมืองมีความสั่นคลอนเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดถูกเทขายออกมาค่อนข้างแรง

“ปัจจัยทางการเมืองยังคงไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่ยังต้องรอความชัดเจนจากหลายเรื่อง ดังนั้น การลงทุนอาจจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มเงินสด และรอความชัดเจน ซึ่งอาจจะยังไม่ต้องกระโจนเข้าไปลงทุน เพราะมองว่าเป็นปัจจัยระยะสั้นที่ยังคงรอความชัดเจนประเด็นการเมืองได้ เพราะหลังจากนี้อาจจะต้องรอดูพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะออกมาพูดอย่างไรกันบ้าง”

นายกรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยปรับตัวลงแรงวานนี้เกิดแรงเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญกลับดิ่งแรงอีกครั้ง หลังจากมีความกังวลชายแดนไทย-กัมพูชา ที่สถานการณ์ความสัมพันธ์กลับตึงเครียดขึ้นและเร่งตัวขึ้น จากกระแสข่าวต่างๆ ซึ่งประเด็นดังกล่าวถือว่ามีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนจากการปรับคณะรัฐมนตรีอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่สร้างความผันผวนที่เกิดจากความขัดแย้งในการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มีกระแสข่าวออกมาว่า อาจจะมีการถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และไปเป็นฝ่ายค้านทันที โดยไม่ต้องรอ 48 ชั่วโมง

ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลกลายเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจริง จะทำให้เสียงของรัฐบาลจะเหลือ 256 เสียง ในขณะที่ฝ่ายค้านจะเพิ่มเป็น 239 เสียง เมื่อพิจารณาจากจำนวนเสียงทั้งหมดจะใกล้เคียงกันมาก เพราะจะต้องใช้เสียงในการผ่านกฎหมาย และมติสำคัญต่างๆ คือ ประมาณ 248 เสียง และด้วยจำนวนเสียงที่ห่างกันเพียง 8 เสียง จะทำให้การโหวตกฎหมายหรือการผ่านเรื่องต่างๆ ในสภาเป็นไปได้ยากลำบากอย่างยิ่ง ทำให้ต่างชาติเทขายจากประเด็นดังกล่าวค่อนข้างมาก

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล. ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า สาเหตุหลักของการปรับตัวลงของตลาดมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ประเด็นแรกคือ ความขัดแย้งภายในรัฐบาลและพรรคร่วม โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย หลังพรรคภูมิใจไทยปฏิเสธข้อเสนอการแลกเปลี่ยนกระทรวงจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจนำไปสู่การที่พรรคภูมิใจไทยตัดสินใจย้ายไปเป็นฝ่ายค้าน

“ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทยมี สส. ประมาณ 69 เสียง การที่พรรคนี้อาจเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายค้านจะทำให้ช่องว่างคะแนนเสียงระหว่างรัฐบาล และฝ่ายค้านแคบลง ส่งผลให้เสถียรภาพของรัฐบาลอ่อนแอลงอย่างชัดเจน”

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวเสริมถึงอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดดิ่งเหว นั่นคือ “คลิปเสียงหลุด” ระหว่างการเจรจาของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

“ตลาดหุ้นไทยวันนี้เริ่มต้นด้วยการปรับตัวเป็นบวกเล็กน้อย โดยกลุ่มพลังงานบางตัวแสดงความแข็งแกร่ง บรรยากาศดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างบาง แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่อมีคลิปเสียงแพร่ออกมา ทำให้ตลาดดิ่งลงอย่างรุนแรง เพราะเนื้อหาในคลิปเกินกว่าจะรับได้”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์