MAGURO เผยสงครามราคาของสุกี้ไม่กระทบ คาดรายได้ปีนี้โตเพิ่มอีก 30%

จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า MAGURO หรือ บมจ. มากุโระ กรุ๊ป เตรียมเปิดร้าน CouCou สาขา 2 ที่ห้าง Nirvana PORCH กรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้สูง เสิร์ฟอาหารแบบ All-day dining สไตล์ตะวันตก และตะวันออก โดยเปิดแบบ Soft opening 8:00-18:00 น. แล้ว ก่อนที่จะเต็มรูปแบบ 8:00-22:00 น. ในเดือน ก.ค. นี้ พร้อมจัดโปรโมชันเปิดสาขาใหม่ดึงดูดลูกค้า อย่างไรก็ดี การเปิดสาขา All-day dining นั้นอยู่ในประมาณการของเราตามแผนธุรกิจของ MAGURO อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มไตรมาส 2/68 เราคาด SSSG จะติดลบตามกลุ่ม จากภาวะเศรษฐกิจซบเซา อย่างไรก็ดีมองว่ากำไรมีโอกาสขยายตัวตัวต่อทั้ง q-q และ y-y จากการขยายจำนวนสาขาต่อเนื่อง โดยทั้งปี 2568 มีแผนขยายเพิ่ม +15 สาขา y-y โดยขยายไปแล้ว +4 สาขาในไตรมาส 1/68 และจะขยายอีก +4 สาขาในไตรมาส 2/68
 

ทั้งนี้ มองการแข่งขันด้านราคาของสุกี้ตี๋น้อย และ M ไม่กระทบต่อผลดำเนินงานของ HITORI SHABU เนื่องจากเป็นร้านระดับพรีเมียม เจาะกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกัน รวมถึงพฤติกรรมการทานที่เป็นรายบุคคลมากกว่ากลุ่มของสุกี้ แต่ SSSG อาจจะกระทบโดยตรงจากกำลังซื้อที่หดตัวตามเศรษฐกิจ

โดยผู้บริหารคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโตราว +30% y-y ซึ่งมองว่าเป็นไปได้ เนื่องจากรายได้ไตรมาส 1/68 คิดเป็น 23.3% ของเป้าบริษัท และ 24.1% ของประมาณการเราแล้ว เราคงประมาณการกำไรสุทธิเอาไว้ที่ 149 ล้านบาท และคงสมมติฐานสาขาที่ 50 สาขาตามเดิม

อย่างไรก็ตาม กจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังดูซบเซาต่อเนื่อง เราปรับ P/E เป้าหมายปีนี้ลงจาก 21.8 เท่า เป็น 20.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 17.8 เท่า เนื่องจาก EPS25E growth +43.0% y-y ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ +16.6% ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 23.60 บาท/หุ้น 

“ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าราคา IPO ที่ 15.90 บาท -7.5% อย่างไรก็ดีรายได้และกำไรยังมีแนวโน้มขยายตัวทำสถิติใหม่ต่อเนื่องในระยะยาว ตามการขยายสาขา แม้ปีนี้จะสะดุดจากปัจจัยภายนอก อาทิ ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำให้ SSSG ติดลบ เรามองเป็นจังหวะสะสม ”