ตลท.เร่ง JKN แจงผลกระทบ-เพิ่มเหตุถอนหุ้น กรณี Special Audit

ตลท.เร่ง JKN แจงผลกระทบ-เพิ่มเหตุถอนหุ้น กรณี Special Audit

ตลท.สั่งJKN แจง 4ประเด็นหลัง “แอน จักรพงษ์”และน้องสาวถูกกล่าวโทษตกแต่งบัญชีกระทบ Special Audit- เลือกผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ-การบริหารงานและระบบลงบัญชี พร้อมเพิ่มเหตุถอนหุ้น

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ขอให้บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ JKN ชี้แจงความคืบหน้าของการจัดทำSpecial Audit ตลอดจนผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และแนวทางการปรับปรุงระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงิน

 

จากกรณีที่สำนักงานคณกรรมการกำกับหลักทรัพย์แลตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) กล่าวโทษบริษัทและกรรมการอีก 2 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณี JKN ลงข้อความเท็จ และ/หรือทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงต่อความเป็นจริงในงบการเงินประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ และนำส่งหรือเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2566 และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report) ที่มีงบการเงินเท็จ

ทั้งนี้ ขอให้ JKN ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 19มิถุนายน 2568

เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของ JKN ได้รับทราบข้อมูลสำคัญ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ JKN ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2568

 

1. สถานะและความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเป็นกรณีพิเศษ (“Special Audit”) ของ JKN

ซึ่งบริษัทเคยแจ้งว่าจะสามารถรายงานผลได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยขอให้ระบุว่ารายงาน Special Audit ที่อยู่ระหว่างการจัดทำครอบคลุมรายการที่ส านักงาน ก.ล.ต. ตรวจพบความผิดปกติหรือไม่ อย่างไร รวมถึงการกล่าวโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. มีผลกระทบต่อการจัดทำและกรอบระยะเวลาที่คาดว่าจะสามารถรายงานผล Special Auditหรือไม่ อย่างไร

2. ผลกระทบต่อการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลาย จากกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และนางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ว่าร่วมกันสั่งการหรือกระทำการสร้างรายการเจ้าหนี้ปลอมและลูกหนี้ปลอม ซึ่งส่งผลให้งบการเงินปี 2566 ของ JKN แสดงยอดหนี้สินและสินทรัพย์ต่างจากความเป็นจริง แต่นำเจ้าหนี้การค้ามาบันทึกบัญชีในปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ ว่าในปี 2567 JKN มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น และนำเจ้าหนี้การค้าดังกล่าวไปใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของ JKN

3. ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ JKN จากการที่นายจักรพงษ์และนางสาวพิมพ์อุมาพ้นจากการดำรงตำแหน่งกรรมการและ/หรือผู้บริหาร รวมถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ JKN ในอนาคต และผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการบริษัทแทนนายจักรพงษ์และนางสาวพิมพ์อุมา

4. แนวทางการปรับปรุงระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำงบการเงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องในอนาคต เพื่อให้ JKN มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดทำงบการเงินได้ถูกต้องน่าเชื่อถือ โดยระบุกรอบระยะเวลาดำเนินการ และบุคลากรผู้รับผิดชอบ

นอกจากนี้JKN มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นั้น

โดยเป็นเหตุเพิ่มเติมที่ทำให้หุ้นสามัญของ JKN เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามข้อ 7(3)ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564 ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอแจ้งการดำเนินการกับ JKN ดังนี้

1. ประกาศให้หุ้นสามัญของ JKN มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมอีก 1 เหตุ จากการที่ JKN เปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงินประจำปี 2566 และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี(“แบบ 56-1 One Report”) ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยังคงขึ้นเครื่องหมาย NC(Non-Compliance) เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ JKN เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน พร้อมกับขึ้นเครื่องหมาย SP(Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ JKN ต่อไป

2. ปัจจุบัน หุ้นสามัญของ JKN มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน รวม 2 เหตุ ดังนี้

2.1 กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ภายในระยะเวลาที่กำหนด

2.2 กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงินประจ าปี 2566 และแบบ 56-1 One Report

อย่างไรก็ดี หาก JKN ไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายถูกเพิกถอนดังกล่าวได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการเพิกถอนหุ้นสามัญของ JKN จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป